เคยไหม? เปิดน้ำจากก๊อกหรือดูดจากตู้น้ำดื่มแล้วพบว่าน้ำดูขุ่นๆเหมือนมีอะไรลอยอยู่ นั่นแหละคือ “สารแขวนลอย” ศัตรูตัวร้ายที่แฝงตัวในน้ำที่ดูเหมือนสะอาด แต่จริงๆแล้วอาจไม่ปลอดภัย
สารแขวนลอย (Suspended Solids) คือ อนุภาคขนาดเล็กที่ไม่ละลายในของเหลว มักพบในน้ำดื่ม น้ำใช้ อาหาร หรือแม้แต่ในยา โดยเฉพาะหากคุณใช้แหล่งน้ำจากถังเก็บ น้ำบาดาล หรือระบบกรองเก่า โอกาสที่สารแขวนลอยจะอยู่ในน้ำมีสูงมาก
บทความนี้จะพาคุณเข้าใจทุกเรื่องเกี่ยวกับสารแขวนลอย ตั้งแต่คำจำกัดความ, ความแตกต่างจากสารละลาย, ตัวอย่างรอบตัว, อันตรายที่ต้องรู้ ไปจนถึงวิธีกรองและแยกออกจากน้ำอย่างมืออาชีพ พร้อมคำแนะนำสำหรับผู้ที่ดูแลเครื่องกรองน้ำ ตู้น้ำ หรือระบบน้ำใช้ทุกระดับ
สารบัญ
1. สารแขวนลอย คืออะไร? พร้อมลักษณะสำคัญ
2. สารแขวนลอยแตกต่างจากสารละลายอย่างไร?
3. ตัวอย่างของสารแขวนลอยในชีวิตประจำวัน
4. ลักษณะของสารแขวนลอยที่สังเกตได้
5. วิธีการทดลองสารแขวนลอยเบื้องต้น
6. อันตรายหรือผลกระทบของสารแขวนลอยในน้ำ
7. สารแขวนลอยในอาหารและเครื่องดื่ม
สารแขวนลอย (Suspension) คือ ส่วนผสมของของแข็งที่ไม่ละลายในของเหลว โดยที่อนุภาคของของแข็งมีขนาดใหญ่พอที่จะมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และสามารถตกตะกอนเมื่อปล่อยทิ้งไว้ให้หยุดนิ่ง การกระจายตัวของอนุภาคในของเหลวจะไม่คงที่ตลอดเวลา ต้องมีการกวนหรือเขย่าจึงจะกระจายทั่วอีกครั้ง
📌 ลักษณะสำคัญของสารแขวนลอย
- อนุภาคไม่ละลาย
– อนุภาคของแข็งในสารแขวนลอยจะไม่ละลายในตัวกลางของเหลว ต่างจากสารละลายแท้ ที่สารละลายจะละลายจนไม่สามารถแยกด้วยตาเปล่าได้ - สามารถแยกได้ด้วยวิธีทางกายภาพ
– เช่น การกรอง (Filtration), การตกตะกอน (Sedimentation) หรือการใช้แรงเหวี่ยง (Centrifuge) - ไม่เสถียร (Unstable mixture)
– เมื่อปล่อยทิ้งไว้จะเกิดการตกตะกอนที่ก้นภาชนะ - ขุ่น ไม่ใส
– ต่างจากสารละลายที่โปร่งใส สารแขวนลอยจะมีลักษณะขุ่นเนื่องจากอนุภาคกระจายแสง - ขนาดอนุภาคอยู่ระหว่าง 1 ไมโครเมตรขึ้นไป
– ใหญ่กว่าคอลลอยด์ ซึ่งเป็นอีกประเภทของสารผสมที่อนุภาคเล็กกว่า
หากคุณต้องการศึกษาคำจำกัดความของ สารแขวนลอยทางเคมีอย่างเป็นทางการ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมจาก Encyclopaedia Britannica ได้ที่
👉 https://www.britannica.com/science/suspension-chemistry
🧪 ความแตกต่างพื้นฐาน
คุณสมบัติ |
สารละลาย (Solution) |
สารแขวนลอย (Suspension) |
องค์ประกอบ |
สารละลาย (solute) + ตัวทำละลาย (solvent) |
อนุภาคของแข็ง + ของเหลว (มักเป็นน้ำ) |
ขนาดอนุภาค |
< 1 นาโนเมตร |
> 1 ไมโครเมตร |
การมองเห็นด้วยตาเปล่า |
มองไม่เห็น (ใสเหมือนน้ำเปล่า) |
มองเห็น (ขุ่น เห็นตะกอน) |
การกรอง |
กรองไม่ออก |
กรองออกได้ด้วยกระดาษกรองทั่วไป |
เสถียรภาพ |
เสถียร ไม่ตกตะกอน |
ไม่เสถียร ตกตะกอนเมื่อปล่อยทิ้งไว้ |
การกระเจิงแสง |
ไม่กระเจิงแสง (Tyndall effect ไม่เกิด) |
กระเจิงแสงได้ (เห็นแสงกระจายผ่านของเหลวขุ่น) |
🔍 ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ
สารละลาย (Solution) |
สารแขวนลอย (Suspension) |
น้ำเกลือ (เกลือละลายในน้ำ) |
น้ำโคลน (ดินแขวนอยู่ในน้ำ) |
น้ำตาลในน้ำ |
น้ำที่มีสนิมหรือเศษผงเหล็กปนอยู่ |
น้ำอัดลม |
น้ำที่มีเศษตะกอนเล็ก ๆ จากท่อประปา |
💧 ทำไมเรื่องนี้สำคัญกับระบบน้ำ?
ในการกรองน้ำหรือระบบเครื่องกรองน้ำดื่ม เราไม่สามารถใช้วิธีเดียวกันกับทั้งสารละลายและสารแขวนลอยได้
- สารแขวนลอย ต้องใช้ไส้กรองหยาบหรือ Sediment Filter (เช่น PP Filter) ที่กรองอนุภาคขนาดใหญ่ได้
- สารละลาย เช่น คลอรีนหรือตะกั่วละลายในน้ำ ต้องใช้ Activated Carbon หรือ ไส้กรอง RO Membrane ในการกรอง
ดังนั้น การเข้าใจความแตกต่างระหว่างสารละลายกับสารแขวนลอย คือกุญแจสู่การเลือกไส้กรองน้ำที่เหมาะกับปัญหาน้ำในบ้านและออฟฟิศสำนักงานของคุณครับ
สารแขวนลอย (Suspension) ไม่ได้มีแค่ในห้องแล็บ หรือหนังสือวิทยาศาสตร์เท่านั้น แต่มันอยู่รอบตัวเราแทบทุกวัน ลองมาดูตัวอย่างที่คุณเห็นบ่อยๆกันดีกว่า
🏠 ตัวอย่างในชีวิตประจำวัน
หมวดหมู่ |
ตัวอย่างสารแขวนลอย |
รายละเอียดสั้นๆ |
ในครัว |
น้ำแกงกะทิ, น้ำพริก, น้ำส้มสายชูหมัก |
มีอนุภาคพริก, กระเทียม, หรือไขมันแขวนลอยอยู่ |
ในบ้าน |
ฝุ่นในอากาศ, น้ำที่ล้างจาน |
ฝุ่นผง, คราบมัน ไม่ละลายในน้ำ แต่ลอยกระจายอยู่ |
ยา/เวชภัณฑ์ |
ยาน้ำเด็กพาราเซตามอล, ยาแก้ไอแบบน้ำข้น |
ต้องเขย่าก่อนใช้ เพราะตัวยาหลักเป็นแขวนลอย |
งานก่อสร้าง |
ปูนผสม, สีทาบ้าน, น้ำยาฉาบผนัง |
มีอนุภาคแคลเซียม คาร์บอเนต หรือดินเหนียวลอยอยู่ |
ธรรมชาติ |
น้ำคลองขุ่น, น้ำฝนตกหนักที่ไหลตามพื้นดิน |
มีดิน ทราย อินทรีย์วัตถุแขวนอยู่ เห็นได้ชัด |
💧 สารแขวนลอยในน้ำดื่มเกิดจาก?
แม้เราจะไม่อยากให้มีสารแขวนลอยในน้ำดื่ม แต่ในชีวิตจริง มักเกิดขึ้นได้จาก :
- สนิมจากท่อเหล็กเก่า
- ตะกอนดินจากน้ำบาดาล
- ฝุ่นและเศษผงในถังเก็บน้ำ
- ตะไคร่ที่หลุดจากผนังถัง
หากปล่อยไว้นาน สารแขวนลอยจะตกตะกอนหรือทำให้น้ำขุ่น ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ว่าระบบกรองของคุณอาจต้องดูแลแล้ว
✅ วิธีป้องกันเพื่อให้น้ำสะอาด ปลอดภัย และใสจริง
- ใช้เครื่องกรองน้ำที่มีไส้กรอง Sediment (PP)
- ตรวจสอบถังเก็บน้ำและล้างสม่ำเสมอ
- ติดตั้งระบบกรองหลายชั้น หากใช้น้ำบาดาลหรือน้ำคลอง
การรู้จักลักษณะของสารแขวนลอย จะช่วยให้คุณตรวจสอบน้ำที่คุณใช้ดื่ม อาบ หรือทำความสะอาดได้เบื้องต้นด้วยตาเปล่า โดยไม่ต้องรอผลจากห้องแล็บ ซึ่งเหมาะมากกับคนที่ดูแลเครื่องกรองน้ำ, ตู้น้ำดื่ม หรือระบบน้ำใช้ในบ้าน
🔍 ลักษณะสำคัญของสารแขวนลอยที่เราสามารถสังเกตได้
- น้ำขุ่น ไม่ใส – น้ำที่มีสารแขวนลอยมักจะขุ่น มัว หรือดูไม่สะอาด ถ้าเทใส่แก้วแล้วมองทะลุไม่ได้ → มีแนวโน้มว่ามีสารแขวนลอยอยู่
- มีตะกอนตกอยู่ก้นภาชนะ – ปล่อยให้น้ำตั้งนิ่งๆสักพัก หากเห็นตะกอนเริ่มนอนก้น = สารแขวนลอยกำลังแยกตัว
- ต้องเขย่าหรือกวนถึงจะกระจายตัว เช่น ยาน้ำบางชนิด เขย่าแล้วจึงขุ่นทั่วทั้งขวด → ลักษณะนี้คือสารแขวนลอย
- มองเห็นอนุภาคลอยกระจายด้วยตาเปล่า – อาจเป็นเศษฝุ่น, ดิน, ผงสี, สนิม ฯลฯ → ใหญ่พอที่ไม่ต้องใช้กล้องจุลทรรศน์
- มีการกระเจิงแสง (Tyndall Effect) – ฉายไฟฉายผ่านน้ำขุ่นที่มีสารแขวนลอย จะเห็นแสงกระจายเป็นลำ เพราะอนุภาคในน้ำกระเจิงแสงออก
💧 ตัวอย่างที่เห็นบ่อยในระบบน้ำ
สถานการณ์ |
สิ่งที่สังเกตได้ |
น้ำจากก๊อกมีสีเหลือง-น้ำตาลอ่อน |
อาจมีสนิมเหล็ก หรือสารแขวนลอยจากท่อเก่า |
น้ำจากเครื่องกรองเริ่มขุ่น |
ไส้กรองเสื่อมหรือตัน → อนุภาคเริ่มหลุดผ่านได้ |
น้ำในถังเก็บน้ำมีตะกอนนอนก้น |
สะสมของฝุ่น ตะไคร่ หรือทราย → ควรล้างถัง |
✅ เคล็ดลับตรวจสอบง่ายๆด้วยตัวเอง
- แก้วใส + ไฟฉาย : เทน้ำใส่แก้ว แล้วส่องไฟจากด้านข้าง → ถ้าเห็นแสงเป็นลำและฝุ่นลอยฟุ้ง แสดงว่ามีสารแขวนลอย
- ทดสอบปล่อยน้ำตั้งนิ่ง 30 นาที : ดูว่ามีตะกอนตกไหม → ถ้ามี ควรใช้ไส้กรองใหม่หรือล้างระบบ
ถ้าคุณดูแลตู้กดน้ำ หรือระบบกรองน้ำในบ้านและสำนักงาน การเข้าใจลักษณะพวกนี้จะช่วยประหยัดเวลา ตรวจเจอปัญหาไว และป้องกันไม่ให้น้ำดื่มกลายเป็นน้ำขุ่นโดยไม่รู้ตัวได้ครับ
การทดลองสารแขวนลอยเบื้องต้น ไม่ต้องไปไกลถึงห้องแล็บ คุณสามารถทดลองด้วยของใกล้ตัวที่มีในบ้าน เพื่อสังเกตพฤติกรรมของสารแขวนลอยได้ง่ายๆ ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไป ผู้ดูแลระบบน้ำ หรือแม้แต่นักเรียน นักศึกษา
🧪 อุปกรณ์ที่ใช้ (หาได้จากในบ้าน)
- แก้วน้ำใส (หรือขวดพลาสติกแบบใส)
- น้ำเปล่า
- ดินสอพอง / ดินธรรมดา / ทราย / แป้ง / ผงกาแฟ
- ช้อนคน
- ไฟฉาย (ถ้ามี)
- กระดาษกรองกาแฟ หรือผ้าขาวบาง
🧪 ขั้นตอนการทดลองเบื้องต้น
🔹 ขั้นที่ 1 : ผสมสารกับน้ำ
- เติมน้ำใส่แก้วประมาณ ¾ ของปริมาตร
- ใส่ “ของแข็งไม่ละลาย” เช่น ดิน แป้ง หรือผงกาแฟลงไป 1 ช้อนชา
- คนให้เข้ากัน แล้วสังเกตลักษณะน้ำ
🔹 ขั้นที่ 2 : สังเกตการกระจายตัว
- คุณจะเห็นว่าน้ำมีลักษณะ ขุ่น
- หากปล่อยทิ้งไว้สัก 3–5 นาที → จะเริ่มมี ตะกอนตกลงก้นแก้ว
🔹 ขั้นที่ 3 : ทดสอบการกรอง
- เทน้ำผ่านกระดาษกรองกาแฟ
- จะเห็นว่าสารแขวนลอยถูกกรองออกได้ง่าย
- น้ำที่ได้หลังกรองจะใสขึ้น แต่ไม่ใสเท่าน้ำกลั่น
🔹 ขั้นที่ 4 (เสริม) : ทดสอบแสง
- ปิดไฟห้อง
- ส่องไฟฉายจากด้านข้างของแก้ว
- ถ้าเห็นลำแสงฟุ้งในของเหลว → เกิด Tyndall Effect = เป็นสารแขวนลอยแน่นอน
📌 สิ่งที่ได้จากการทดลอง
สิ่งที่สังเกตได้ |
ความหมาย |
น้ำขุ่นหลังคน |
มีสารแขวนลอยกระจาย |
มีการตกตะกอนเมื่อปล่อยทิ้งไว้ |
สารไม่เสถียร → เป็นสารแขวนลอย |
กรองได้ง่ายด้วยผ้าหรือกระดาษกรอง |
ขนาดอนุภาคใหญ่พอให้แยกออก |
มีลำแสงพุ่งกระจาย (Tyndall Effect) |
ยืนยันว่าไม่ใช่สารละลายแท้ |
⚠️ 1. ส่งผลต่อคุณภาพน้ำดื่มโดยตรง
- น้ำขุ่น มีกลิ่น ดูไม่น่าดื่ม
- รสชาติเปลี่ยน และทำให้ผู้ใช้รู้สึกไม่มั่นใจ
⚠️ 2. เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคและจุลินทรีย์
- อนุภาคแขวนลอยทำหน้าที่เป็นบ้านให้แบคทีเรียหรือไวรัสเจริญเติบโต
- เช่น E.coli หรือเชื้อราอันตราย มักพบในน้ำที่มีเศษตะกอนสะสม
⚠️ 3. เพิ่มภาระให้กับระบบกรองน้ำ
- ทำให้ไส้กรองอุดตันเร็ว ต้องเปลี่ยนบ่อยขึ้น
- ลดอายุการใช้งานของเครื่องกรองและตู้กดน้ำ
⚠️ 4. สะสมในอุปกรณ์และท่อ
- เกิดคราบตะกรันในเครื่องกรองน้ำ, ก๊อกน้ำ, และถังเก็บน้ำ
- หากปล่อยไว้นาน อาจทำให้ท่ออุดตันหรือน้ำไหลช้าลง
⚠️ 5. อาจมีโลหะหนักหรือสิ่งปนเปื้อนอื่นแฝง
- เช่น อนุภาคสนิมที่มีเหล็กหรือแมงกานีส, หรือผงจากแร่ที่มีสารหนู
- ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่สะสมในร่างกายได้
🏠 ตัวอย่างผลกระทบในชีวิตประจำวัน
สถานการณ์ |
ผลกระทบจากสารแขวนลอย |
ถังน้ำดื่มไม่ได้ล้างนาน |
มีตะกอนสะสม, น้ำมีกลิ่น, ก๊อกอุดตัน |
น้ำประปามีตะกอนดิน |
ไส้กรองตันเร็ว, น้ำดื่มขุ่น |
ใช้น้ำบาดาลกรองไม่ดี |
สนิมและแร่แขวนลอย, ทำให้เครื่องกรองเสียไว |
🔧 วิธีจัดการและป้องกัน
- ติดตั้งระบบกรองที่มี Sediment Filter (5–10 ไมครอน)
→ ดักจับสารแขวนลอยก่อนเข้าสู่ระบบหลัก - ตรวจสอบและล้างถังน้ำเดือนละครั้ง
→ ป้องกันการสะสมตะกอนและแบคทีเรีย - เปลี่ยนไส้กรองน้ำตามรอบ
→ โดยเฉพาะไส้กรองหยาบ ที่มักอุดตันเร็วที่สุด - ทดสอบคุณภาพน้ำเป็นระยะ
→ ใช้ชุดทดสอบเบื้องต้นหาความขุ่นหรือ TDS
สารแขวนลอยไม่ได้พบแค่ในน้ำเสียหรือแหล่งน้ำธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังพบได้ในอาหารและเครื่องดื่มที่เราบริโภคทุกวัน หลายกรณีเป็นสิ่งที่ตั้งใจใส่เพื่อคุณประโยชน์ เช่น ความเข้มข้น เนื้อสัมผัส หรือคุณค่าทางโภชนาการ ในขณะที่บางกรณีก็เป็นสิ่งปนเปื้อนที่ไม่พึงประสงค์
🧁 ตัวอย่างสารแขวนลอยในอาหาร (ตั้งใจให้มี)
อาหาร / เครื่องดื่ม |
สารแขวนลอยที่พบ |
ลักษณะ |
น้ำส้มคั้นสด |
เยื่อส้ม, เส้นใย |
ลอยกระจายทั่ว ไม่ละลาย |
ซุปข้น |
เนื้อผัก, เศษเนื้อ |
ลอยในน้ำซุป มีความขุ่น |
นมถั่วเหลืองแบบไม่กรอง |
กากถั่วเล็ก ๆ |
ทำให้นมข้นและมีเนื้อสัมผัส |
เครื่องดื่มสมุนไพร |
ผงขิง, ตะไคร้, ใบเตยบด |
แขวนลอยชั่วคราว ต้องเขย่าก่อนดื่ม |
น้ำผลไม้ปั่น |
เนื้อผลไม้ปั่นหยาบ |
ขุ่น มีเนื้อสัมผัส |
ในอาหารเหล่านี้ สารแขวนลอยถือเป็น “ส่วนดี” ที่ให้ความรู้สึกสดใหม่ หรือเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ
👉 แต่ต้องดื่มให้หมดเร็ว เพราะสารจะแยกชั้นเมื่อปล่อยทิ้งไว้นาน
⚠️ สารแขวนลอยที่ “ไม่ควรมี” ในอาหารและเครื่องดื่ม
บางครั้งการพบสารแขวนลอยในของเหลว อาจเป็นสัญญาณของการปนเปื้อนหรือหมดอายุ เช่น
- น้ำดื่มที่มีตะกอน → มาจากถังสกปรกหรือไส้กรองเสื่อมสภาพ
- เครื่องดื่มบรรจุขวดมีเศษแปลกปลอมลอยอยู่ → อาจเกิดจากกระบวนการผลิตไม่สะอาด
- อาหารเหลวมีสีเปลี่ยน+ขุ่นผิดปกติ → อาจบูดหรือเกิดเชื้อรา
🧪 วิธีสังเกตเบื้องต้น
- ถ้าขุ่นแล้วตกตะกอนเร็วมาก → มักเป็นของที่ไม่เสถียร หรือเสื่อมคุณภาพแล้ว
- ถ้ามีกลิ่นเปรี้ยว หรือฟองแปลก → อย่าดื่มเด็ดขาด
- สำหรับน้ำดื่ม → น้ำที่สะอาดควรใส ไม่มีตะกอน และไม่มีกลิ่น
💡 แล้วระบบกรองน้ำเกี่ยวอะไร?
เครื่องกรองน้ำที่ดีต้องสามารถจัดการกับสารแขวนลอยที่ “ไม่ควรมี” ได้ เช่น :
- ไส้กรอง Sediment (PP) สำหรับดักฝุ่น ตะกอน
- ไส้กรอง Carbon สำหรับลดกลิ่น รส และสารเคมี
- ระบบ UV หรือ RO สำหรับฆ่าเชื้อหรือละเอียดระดับโมเลกุล
ถ้าใช้น้ำดิบในการประกอบอาหาร/เครื่องดื่ม เช่น ร้านกาแฟหรือร้านน้ำสมุนไพร → จำเป็นมากที่ต้องมีระบบกรองที่สามารถจัดการกับสารแขวนลอยอย่างมีประสิทธิภาพ
✅ สรุป
สารแขวนลอยในอาหารและเครื่องดื่ม มีทั้งแบบที่ดีและแบบที่ควรหลีกเลี่ยง
หากควบคุมไม่ได้ → อาจกระทบคุณภาพ ความสะอาด และความปลอดภัยของผู้บริโภคโดยตรง
สารแขวนลอยในของเหลว เช่น ตะกอนดิน ฝุ่น ผงสนิม หรือเศษอินทรีย์ที่ปะปนอยู่ในน้ำ เป็นสิ่งที่ไม่ละลายและส่งผลต่อความสะอาด ความใส และความปลอดภัยในการบริโภคหรือใช้งาน การแยกสารแขวนลอยออกจากน้ำ จึงเป็นขั้นตอนสำคัญในระบบกรองน้ำ, การผลิตอาหาร, อุตสาหกรรม และแม้แต่ในชีวิตประจำวัน
🧪 วิธีการแยกสารแขวนลอยออกจากของเหลว
✅ 1. การกรอง (Filtration)
วิธีพื้นฐานที่สุด ใช้ตะแกรงหรือไส้กรองน้ำ เพื่อดักจับอนุภาคแขวนลอย
- ในครัวเรือน : กระชอน, ผ้าขาวบาง, กรองกาแฟ
- ในระบบกรองน้ำ :
- Sediment Filter (PP) กรองตะกอนขนาด 1–5 ไมครอน
- Ceramic Filter ใช้กรองละเอียดและฆ่าเชื้อ
- ข้อดี : ทำได้ทันที เห็นผลเร็ว
- ข้อจำกัด : ไม่สามารถกรองสารละลายหรือเชื้อโรคที่เล็กเกินไปได้
✅ 2. การตกตะกอน (Sedimentation)
ปล่อยให้น้ำหยุดนิ่ง → อนุภาคแขวนลอยจะค่อยๆ ตกลงก้นภาชนะตามแรงโน้มถ่วง
- เหมาะกับกรณีที่น้ำมีตะกอนขนาดใหญ่ เช่น น้ำคลอง น้ำบ่อ
- นิยมใช้ก่อนการกรอง เพื่อยืดอายุไส้กรอง
- อาจต้องใช้สารช่วยตกตะกอน (Coagulant) เช่น สารส้ม
✅ 3. การเหวี่ยง (Centrifugation)
ใช้แรงเหวี่ยงในการแยกอนุภาคออกจากของเหลว
- ใช้ในห้องแล็บหรืออุตสาหกรรม
- แม่นยำ แต่ต้นทุนสูง
✅ 4. การแยกด้วยแรงดัน (Pressure Filtration)
ใช้ในเครื่องกรองน้ำ RO หรือ UF
- แรงดันน้ำช่วยผลักผ่านไส้กรองน้ำที่มีรูขนาดเล็ก
- กรองได้แม้กระทั่งเชื้อแบคทีเรียและไวรัส (ในระบบ RO)
- เหมาะกับบ้านที่ใช้น้ำบาดาลหรือน้ำขุ่นจัด
🏠 ตัวอย่างในระบบกรองน้ำดื่ม
ระบบกรอง |
หน้าที่ในการแยกสารแขวนลอย |
ไส้กรอง PP (Sediment Filter) |
ดักฝุ่น ตะกอน เศษหินปูน ได้ตั้งแต่ต้นทาง |
ไส้กรอง Carbon Block |
ช่วยกรองคลอรีน + กลิ่นรบกวนร่วมกับอนุภาคเล็ก ๆ |
ไส้กรองน้ำ UF (Ultra Filtration) |
แยกสิ่งสกปรกขนาดเล็กลงไปอีก โดยไม่ใช้ไฟ |
ไส้กรองน้ำ RO (Reverse Osmosis) |
แยกระดับโมเลกุล ละเอียดที่สุด แต่ใช้แรงดันสูง |
🔧 เคล็ดลับดูแลระบบกรองเพื่อแยกสารแขวนลอย
- เปลี่ยนไส้กรองน้ำ PP ทุก 3–6 เดือน
- ล้างถังเก็บน้ำเดือนละครั้ง หากใช้ระบบถังคว่ำ
- ตรวจสอบความใสของน้ำด้วยตาเปล่าเป็นประจำ
- ถ้าน้ำเริ่มขุ่นเร็ว หรือมีกลิ่น → ให้สงสัยว่าไส้กรองตันแล้ว
✅ สรุป
การแยกสารแขวนลอยออกจากของเหลวไม่ใช่แค่เรื่องในห้องแล็บ แต่คือหัวใจของระบบกรองน้ำที่ดี ถ้าคุณเลือกเทคโนโลยีให้เหมาะกับปัญหาน้ำ → น้ำดื่มของคุณจะใส สะอาด ปลอดภัยทุกหยด 💧✨
ล้างตู้กดน้ำเย็นกับเรา
สยามคูลเลอร์ มาร์ท แอนด์ เซอร์วิส รับบริการล้างตู้ทำน้ำเย็น ถังคว่ำ, ถังล่าง, กรองในตัว, ต่อตรงท่อประปา พร้อมตรวจเช็คอะไหล่ตู้น้ำดื่มด้านใน มีผลงานจริงให้รับชมทั้งรูปภาพและวิดีโอ คลิกปุ่มด้านล่างเพื่ออ่านรายละเอียด
หมวดหมู่ | ตัวอย่างสารแขวนลอย |
---|---|
🏞️ ในธรรมชาติ / น้ำ | • ตะกอนดิน • ทราย • โคลน • ฝุ่นผงจากอากาศ • สนิมจากท่อเหล็ก • ตะไคร่น้ำหรือเศษอินทรีย์ • แร่ธาตุที่ไม่ละลาย เช่น หินปูน |
🍹 ในอาหารและเครื่องดื่ม | • เยื่อส้มในน้ำส้มคั้น • กากถั่วเหลืองในนมถั่ว • ผงขิงในน้ำขิง • เนื้อผลไม้ในสมูทตี้ • เศษเครื่องเทศในน้ำพริก • ตะกอนชาในชาสมุนไพร |
💊 ในยา | • ตัวยาแขวนลอยในยาน้ำเด็ก (เช่น พาราเซตามอล) • ยาน้ำสมุนไพรแบบขวดเขย่า |
🏠 ในบ้าน | • ฝุ่นในอากาศที่จับในน้ำ • ตะกอนในถังพักน้ำ • เศษผงจากท่อหรือแทงก์เก็บน้ำ |
🏭 ในงานอุตสาหกรรม | • ผงแร่ในน้ำเสียเหมือง • แป้งในกระบวนการผลิตอาหาร • ปูนผงในน้ำผสมปูน • สีย้อมในน้ำจากอุตสาหกรรมสิ่งทอ |
⚠️ อันตรายที่อาจเกิดขึ้น (ถ้าอยู่ใน “น้ำดื่ม”)
- ทำให้น้ำขุ่น มีกลิ่น ไม่ปลอดภัย
- อาจเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรีย
- ทำให้เครื่องกรองน้ำอุดตันเร็ว
- อาจแฝงโลหะหนักหรือเชื้อโรค ถ้าไม่กรองให้ดี
✅ วิธีจัดการสารแขวนลอยในน้ำ
- ใช้ไส้กรองน้ำ Sediment (PP Filter) 5 ไมครอน
- ล้างถังน้ำและระบบกรองอย่างสม่ำเสมอ
- เปลี่ยนไส้กรองตามรอบ เพื่อไม่ให้ปล่อยให้อนุภาคหลุดรอด
- สำหรับน้ำที่ขุ่นจัด → ใช้ระบบกรองหลายขั้นตอน เช่น UF หรือ RO
เงื่อนไขการให้บริการ
- ราคาขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการให้บริการ เช่น ราคาส่งอย่างเดียว ราคาส่งพร้อมติดตั้ง สามารถสอบถามและขอใบเสนอราคาได้ตามช่องทางติดต่อด้านล่าง
- ส่งสินค้าฟรีเฉพาะเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล
- หากลูกค้าอยู่ต่างจังหวัด มี 2 กรณี
3.1 ส่งอย่างเดียวโดยการใช้บริการขนส่ง ค่าขนส่งขึ้นอยู่กับระยะทางและน้ำหนักสินค้า จ่ายต้นทางหรือปลายทางขึ้นอยู่กับการตกลง
3.2 ทางเราดำเนินการส่งเองพร้อมติดตั้งให้ โดยจะมีการคิดค่าน้ำมันตามระยะทางไป-กลับ
หมายเหตุ : ทางเราไม่ได้มีบริการติดตั้งทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย เช่น ภาคเหนือ ภาคใต้ ทางเราไม่มีบริการติดตั้ง ขึ้นอยู่กับระยะทางและปริมาณการซื้อขาย สามารถทักมาสอบถามพูดคุยเบื้องต้นก่อนได้ตามช่องทางการติดต่อด้านล่าง
- การติดตั้งไม่รวมถึงการเดินท่อประปา, ท่อน้ำทิ้ง, ปลั๊กไฟ และสายไฟ สิ่งเหล่านี้เป็นความรับผิดชอบของลูกค้า
- ติดตั้งฟรีหน้างานในระยะไม่เกิน 5 เมตร จากจุดเชื่อมน้ำประปา ก๊อกน้ำ หรือวาล์วน้ำ เป็นสายอ่อน 2 หุน
- ไม่รับประกันอุปกรณ์ที่เสื่อมสภาพตามการใช้งาน เช่น ก๊อกน้ำ แกนก๊อก ไส้กรองน้ำ
- มีตู้สำรองให้ใช้ระหว่างการซ่อมตลอดอายุการใช้งาน หากต้องยกตู้เข้าโรงงานเพื่อตรวจเช็ค
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อสินค้า ขอใบเสนอราคา
Line | คลิกที่นี่เพื่อ Chat ทันที | |
siamcooler1@gmail.com | ||
@siamcooler | ||
Youtube | @siamcooler | |
ออฟฟิศ | 02-539-2630 | 02-539-2607 |
02-538-6343 | ||
มือถือ | 092-364-4629 (ฝ่ายขาย) | 087-935-1415 (ฝ่ายซ่อมบำรุง) |
แฟกซ์ | 02-931-1381 |
Siamcooler Mart and Service ยินดีให้คำปรึกษาและให้บริการอย่างเต็มความสามารถเพื่อช่วยลูกค้าแก้ปัญหา เปรียบเสมือนแผนกหนึ่งในองค์กรที่ช่วยดูแลเรื่องตู้กดน้ำ ไส้กรองน้ำ เครื่องกรองน้ำ อะไหล่ และบริการบำรุงรักษา เช่น การล้างทำความสะอาด การซ่อมบำรุง การทำสัญญาบริการรายปี
ประสบการณ์กว่า 20 ปี มีฐานลูกค้ามากกว่า 6,000 ราย ได้รับความไว้วางใจจากภาครัฐ เอกชน โรงเรียน ครัวเรือน และขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง จากการบอกต่อของลูกค้าที่ประทับใจในการใช้บริการกับเรา สามารถชื่นชมผลงานที่ผ่านมาของเราได้ที่นี่