วิธีทำความสะอาดตู้กดน้ำดื่ม มีอะไรบ้าง? ง่ายๆใครก็ทำได้

วิธีทำความสะอาดตู้กดน้ำดื่ม

ตู้กดน้ำเป็นอุปกรณ์ที่ใช้งานทุกวัน แต่อาจถูกมองข้ามเรื่องการดูแลความสะอาด โดยเฉพาะบริเวณถังพักน้ำ ก๊อกจ่าย หัวจ่ายน้ำ หรือท่อส่งน้ำ ล้วนเป็นจุดที่เชื้อโรคสามารถสะสมได้หากปล่อยไว้นานเกินไป

คราบตะไคร่ กลิ่นอับ เมือก และตะกอนที่เรามองไม่เห็น อาจกลายเป็นสาเหตุของน้ำปนเปื้อน ที่ส่งผลต่อสุขภาพอย่างคาดไม่ถึง เช่น ท้องเสีย กลิ่นไม่พึงประสงค์ หรือแม้แต่เชื้อโรคที่ปนเปื้อนจากการใช้งานร่วมกันในพื้นที่สาธารณะ

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ “วิธีทำความสะอาดตู้กดน้ำอย่างถูกต้อง” ทั้งภายนอกและภายใน พร้อมคำแนะนำเรื่องอุปกรณ์ที่ใช้ ความถี่ที่ควรล้าง และข้อควรระวัง เพื่อให้คุณดูแลตู้กดน้ำได้ด้วยตัวเองแบบง่ายๆ แต่ได้ผลจริง

1. เตรียมอุปกรณ์ก่อนทำความสะอาด

ก่อนเริ่มล้างตู้กดน้ำเย็น ควรเตรียมอุปกรณ์ให้ครบถ้วน เพื่อให้การทำความสะอาด ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และไม่ทำให้เครื่องเสียหายครับ เพราะต้องล้างถังเก็บน้ำและก๊อกน้ำ ซึ่งตำแหน่งบางจุดต้องใช้อุปกรณ์ในการแกะชิ้นส่วนออก

🧰 รายการอุปกรณ์ที่ควรเตรียม

อุปกรณ์

ใช้ทำอะไร?

 ผ้าสะอาด/ผ้าไมโครไฟเบอร์ ใช้เช็ดภายนอกตัวเครื่องให้แห้งและสะอาด
ฟองน้ำหรือแปรงขนนุ่ม สำหรับขัดทำความสะอาดถังเก็บน้ำและจุดอับ
 น้ำยาทำความสะอาดปลอดภัย (Food Grade) ฆ่าเชื้อในถังเก็บน้ำและก๊อก เช่น น้ำส้มสายชู, น้ำยาฟู้ดเกรด
 ถังน้ำสะอาด หรือกะละมัง ใช้ผสมน้ำยาหรือรองล้างชิ้นส่วน
 แอลกอฮอล์ 70% หรือเบกกิ้งโซดา เช็ดฆ่าเชื้อบริเวณก๊อกน้ำ, ปุ่มกด หรือถาดรองน้ำ
 ไขควง (ถ้าจำเป็นต้องถอดฝาครอบ/ก๊อก) ใช้ในการถอดส่วนประกอบเครื่องเพื่อทำความสะอาดภายใน
 ถุงมือยาง ป้องกันมือจากสารทำความสะอาด และสิ่งสกปรก
 ขวดสเปรย์ (ถ้ามี) ฉีดน้ำยาทำความสะอาดให้ทั่วถึง
 เครื่องมือทดสอบน้ำ (ถ้ามี) ตรวจคุณภาพน้ำหลังทำความสะอาด เช่น TDS meter

⚠️ ข้อควรระวังขณะเตรียมอุปกรณ์ :

  • ห้ามใช้น้ำยาที่มีฤทธิ์กัดกร่อน เช่น น้ำยาล้างห้องน้ำ, น้ำยาฆ่าเชื้อแรงสูง (หากไม่ใช่ชนิดปลอดภัยสำหรับน้ำดื่ม)
  • อย่าลืมถอดปลั๊กก่อนเริ่มทำความสะอาดทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัย
  • อุปกรณ์ควรแยกใช้สำหรับตู้น้ำเท่านั้น ห้ามใช้ร่วมกับงานล้างครัว/ล้างห้องน้ำ

2. ขั้นตอนการทำความสะอาด
(ภายนอก – ภายใน)

การล้างตู้กดน้ำไม่ใช่แค่ล้างน้ำเฉยๆแล้วจบ แต่ต้องมีการดูแลทั้งภายนอกและภายใน เพราะแต่ละส่วนมีหน้าที่ต่างกัน และสามารถเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคได้ถ้าปล่อยปละละเลย

การทำความสะอาดอย่างถูกวิธี ไม่เพียงช่วยให้น้ำดื่มสะอาดปลอดภัย แต่ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องได้อีกด้วย

👉 ขั้นตอนที่ 1 : เตรียมอุปกรณ์ และถอดปลั๊กเครื่องทำน้ำเย็น

  • ปิดเครื่อง ถอดปลั๊กออกจากเต้ารับ เพื่อความปลอดภัยจากไฟฟ้าช็อต
  • เตรียมอุปกรณ์ทำความสะอาดให้ครบถ้วน (ดูในหัวข้อก่อนหน้า)
  • เตรียมน้ำอุ่นผสมน้ำยาทำความสะอาดฟู้ดเกรด (หรือเบกกิ้งโซดา/น้ำส้มสายชู)

👉 ขั้นตอนที่ 2 : ทำความสะอาดภายนอกตัวเครื่อง

จุดที่ควรทำความสะอาด

วิธีทำ

🔹 ผิวตัวเครื่อง ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ชุบน้ำหมาด เช็ดฝุ่น/คราบ
🔹 ก๊อกน้ำและปุ่มกด ใช้แปรงขนอ่อนหรือสำลีชุบน้ำยาฆ่าเชื้อเช็ดรอบๆก๊อก
🔹 ถาดรองน้ำ ถอดออกมาล้างด้วยน้ำสบู่อ่อน ล้างให้สะอาดและเช็ดให้แห้ง
🔹 ช่องระบายอากาศ ใช้แปรงปัดฝุ่น/เครื่องดูดฝุ่นขนาดเล็กทำความสะอาดช่องพัดลม

📌 ควรเน้นจุดที่มือสัมผัสบ่อย เช่น ปุ่มกด ก๊อกน้ำ เพราะเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค

👉 ขั้นตอนที่ 3 : ทำความสะอาดภายในถังเก็บน้ำ และระบบน้ำ

จุดสำคัญ

วิธีล้าง

🔹 ถังเก็บน้ำเย็น เปิดฝาถัง ล้างด้วยน้ำอุ่นผสมน้ำส้มสายชู (หรือน้ำยาฆ่าเชื้อ Food Grade) ทิ้งไว้ 10–15 นาที จากนั้นล้างออกให้สะอาด
🔹 ถังน้ำร้อน (ถ้ามี) ใช้เฉพาะน้ำสะอาดล้าง ห้ามใช้น้ำยาแรงๆหรือสารกัดกร่อนเด็ดขาด
🔹 ท่อน้ำภายใน กดน้ำออกหลายๆครั้งหลังล้าง เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีน้ำยาหลงเหลือ

⚠️ ห้ามใช้สารฟอกขาวหรือน้ำยาล้างห้องน้ำเด็ดขาด เพราะอาจตกค้างในน้ำดื่มและเป็นอันตรายได้

👉 ขั้นตอนที่ 4: เช็คไส้กรอง (ถอด/เปลี่ยนถ้าจำเป็น)

  • ตรวจสอบสภาพของไส้กรองน้ำ (ควรเปลี่ยนทุก 6–12 เดือน)
  • ถ้าไส้กรองดำ เปื่อย หรือมีคราบสกปรก = ควรเปลี่ยนชุดใหม่
  • จดบันทึกวันที่เปลี่ยนล่าสุด เพื่อวางแผนล้างรอบถัดไป

👉 ขั้นตอนที่ 5 : เช็ดให้แห้ง และเปิดฝาให้ระบายอากาศ

  • เช็ดทุกจุดให้แห้งสนิท โดยเฉพาะภายในถังเก็บน้ำ
  • เปิดฝาเครื่องทิ้งไว้ 1–2 ชม. ให้ภายในแห้งสนิทก่อนเสียบปลั๊ก
  • เมื่อแน่ใจว่าแห้งดีแล้ว จึงเสียบปลั๊กและใช้งานตามปกติ

💡 เคล็ดลับจากมือโปร

  • ใช้แบบฟอร์มเช็คความสะอาดแต่ละจุด เพื่อให้ไม่ลืมล้าง
  • ล้างอย่างน้อยทุก 1–3 เดือน หรือทุก 6 เดือน แม้จะไม่มีคราบปรากฏ
  • ถ้าตู้มีกลิ่นอับแม้ภายนอกดูสะอาด = ต้องล้างภายในทันที

หากคุณต้องการเรียนรู้ >>วิธีล้างตู้กดน้ำแบบละเอียดทีละขั้นตอน พร้อมรูปภาพประกอบ<< สามารถดูคู่มือภาษาอังกฤษจาก The Spruce ได้เลย

3. การทำความสะอาดหัวจ่ายน้ำ ก๊อกน้ำ และถังเก็บน้ำ

จุดที่น้ำไหลผ่านมากที่สุด ก็คือ หัวจ่ายน้ำ ก๊อกน้ำ และ ถังเก็บน้ำด้านใน ถ้าล้างไม่บ่อยมากพอ หรือมีน้ำขังอยู่ตลอดเวลา จะเสี่ยงสูงต่อการสะสมของ เชื้อรา ตะไคร่น้ำ และแบคทีเรีย การทำความสะอาดทั้ง 3 จุดนี้ ต้องทำอย่างละเอียด เพราะเป็นหัวใจสำคัญของสุขอนามัยในการดื่มน้ำ ไม่ว่าจะในบ้าน โรงงาน หรือสำนักงาน

3.1 การทำความสะอาดหัวจ่ายน้ำ / ก๊อกน้ำ

📌 ความสำคัญ : ก๊อกน้ำหรือหัวจ่ายน้ำเป็นจุดที่เราสัมผัสทุกครั้งที่ใช้งาน และยังเป็นทางผ่านของน้ำดื่มโดยตรง

ถ้าไม่สะอาด → น้ำที่ออกมาอาจปนเปื้อนสิ่งสกปรกหรือเชื้อโรคได้ทันที

🧽 วิธีทำความสะอาด :

  1. ถอดหัวจ่ายน้ำออก (ถ้าเป็นรุ่นถอดได้)
  2. ใช้แปรงขนอ่อน/แปรงสีฟันเก่า จุ่มน้ำอุ่นผสมน้ำส้มสายชู หรือเบกกิ้งโซดา ขัดบริเวณหัวจ่ายและปากก๊อก
  3. ล้างด้วยน้ำสะอาด แล้วเช็ดให้แห้ง
  4. ใช้แอลกอฮอล์ 70% เช็ดซ้ำเพื่อฆ่าเชื้อโรค
  5. หมุนกลับเข้าที่ให้แน่น

💡 เคล็ดลับ

  • ทำความสะอาดก๊อกน้ำ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง
  • ถ้าเห็นคราบขาว (หินปูน) หรือเมือกเขียว = ต้องล้างด่วน

ตู้กดน้ำร้อน น้ำเย็น ต่อท่อประปา

ตู้ทำน้ำเย็น 2 ก๊อก Maxcool MC-4L ต่อท่อ มีระบบกรองในตัว

฿ 13,250.00
฿ 15,000.00
ลดราคา!
Original price was: ฿ 17,700.00.Current price is: ฿ 16,700.00.

3.2 การทำความสะอาดถังเก็บน้ำ

📌 ความสำคัญ : ถังเก็บน้ำคือแหล่งพักน้ำก่อนกดน้ำดื่มจริง

ถ้าสกปรก = น้ำที่ใสแค่ภายนอก อาจเต็มไปด้วยเชื้อโรคที่ตาเปล่ามองไม่เห็น

🧼 วิธีล้างถังตู้น้ำอย่างถูกต้อง :

  1. ปิดเครื่องและถอดปลั๊ก
  2. เปิดฝาถังน้ำ → เทน้ำเก่าออกให้หมด
  3. ล้างถังด้วยน้ำสะอาด 1 รอบ
  4. ผสมน้ำอุ่นกับน้ำส้มสายชู (อัตรา 1:1) หรือใช้น้ำยาทำความสะอาดแบบ Food Grade
  5. ใช้ฟองน้ำสะอาดหรือผ้าไมโครไฟเบอร์ เช็ดถูภายในถังอย่างทั่วถึง
  6. ล้างออกด้วยน้ำสะอาด 2–3 รอบ จนไม่มีฟองหรือน้ำยาตกค้าง
  7. เช็ดให้แห้งด้วยผ้าสะอาด
  8. เปิดฝาถังทิ้งไว้ให้ถังแห้งสนิท 100% ก่อนใช้งานใหม่

💡 คำแนะนำ

  • ควรล้างถังตู้น้ำทุก 1–3 เดือน หรือ 6 เดือน ขึ้นอยู่กับปริมาณการใช้งานและสภาพแวดล้อมรอบตู้น้ำ
  • หากใช้น้ำประปาโดยตรง → ควรล้างถัง บ่อยกว่าปกติ เพราะมีตะกอนและคลอรีน

4. ทำความสะอาดระบบภายในอย่างไร (หากเข้าถึงได้)

แม้การเช็ดภายนอกจะทำให้ตู้กดน้ำดูสะอาด แต่ระบบภายใน ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะเป็นจุดที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของเครื่องโดยตรง เช่น การทำความเย็น การระบายความร้อน และระบบควบคุมต่างๆ หากมีฝุ่นสะสม ความชื้น หรือตะกรัน จะทำให้เครื่องทำงานหนัก เสื่อมเร็ว และเสี่ยงต่อไฟฟ้าลัดวงจรได้ จุดที่ควรตรวจและทำความสะอาด มีดังนี้

🔧 1. คอยล์เย็น (บริเวณถังน้ำเย็น)

  • ถ้าเปิดฝาด้านในหรือตรงจุดที่น้ำไหลผ่านแล้วจะเห็นท่อคอยล์เย็น
  • ใช้ผ้าแห้งเช็ดคราบขาว/คราบตะกอนรอบท่อให้หมด
  • ห้ามใช้น้ำราดลงโดยตรง (เพราะอาจเกิดไฟรั่ว)

💡 เคล็ดลับ : คอยล์สะอาด = น้ำเย็นเร็วขึ้น และประหยัดไฟ

🔧 2. คอมเพรสเซอร์ด้านหลังเครื่อง

  • ปิดเครื่องและถอดปลั๊กก่อนทุกครั้ง
  • ใช้แปรงหรือไม้ปัดฝุ่นแบบขนยาว ค่อยๆปัดฝุ่นออกจากตัวคอมเพรสเซอร์
  • หากปัดไม่ออก ให้นำแปรงจุ่มน้ำหมาดๆแล้วปัดอีกครั้ง
  • อย่าราดน้ำ หรือใช้ผ้าเปียกเช็ดโดยตรง

📌 หากมีการสะสมฝุ่นมาก = เครื่องระบายความร้อนไม่ดี = เสี่ยงร้อนเกิน/คอมเพรสเซอร์เสีย

🔧 3. พัดลมระบายความร้อน (บางรุ่น)

  • ใช้ไฟฉายส่องดูว่าใบพัดหมุนสะดวกหรือมีฝุ่นจับหนาไหม
  • ถ้าเข้าถึงได้ ให้ใช้แปรงขนนุ่มหรือลมเป่าไล่ฝุ่นออกเบาๆ
  • ห้ามใช้น้ำ หรือแยงเข้าไปหมุน เพราะอาจทำให้ใบพัดเสียศูนย์

🔧 4. แผ่นกรองอากาศ (ถ้ามี)

  • บางตู้มีแผ่นกรองฝุ่น คล้ายๆแผ่นฟองน้ำหรือตะแกรงตาข่าย
  • ถอดออกมาล้างด้วยน้ำเปล่า แล้วตากให้แห้งสนิทก่อนใส่กลับ
  • แนะนำล้างทุก 2–3 เดือน

🔧 5. สายไฟและขั้วต่อไฟฟ้า

  • ตรวจสอบจุดต่อสายไฟภายใน ว่ามีคราบดำ / รอยไหม้ หรือหลวมไหม
  • ใช้ผ้าแห้งเช็ดฝุ่นบริเวณกล่องไฟหรือ PCB (ห้ามใช้น้ำ)
  • หากเห็นสายละลายหรือไหม้ → ต้องเปลี่ยนหรือให้ช่างเช็ค

🚨 ข้อควรระวัง :

  • ห้ามใช้น้ำฉีดหรือราดในจุดที่มีระบบไฟ เช่น คอมเพรสเซอร์ แผงวงจร หรือแผ่น PCB
  • ถอดปลั๊กทุกครั้งก่อนเปิดฝาเข้าระบบภายใน
  • หากไม่มั่นใจ ให้ใช้วิธี “เป่าฝุ่น” หรือให้ช่างตรวจปีละครั้ง

5. ความถี่ในการทำความสะอาด

การทำความสะอาดตู้กดน้ำไม่ใช่แค่ทำเมื่อสกปรก แต่ควรมีรอบการดูแลที่สม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าน้ำที่ออกมาสะอาด ปลอดเชื้อโรค และทำงานได้เต็มประสิทธิภาพตลอดอายุการใช้งาน ความถี่ในการทำความสะอาดควรพิจารณาตามสภาพแวดล้อมและการใช้งานจริง

🗓️ ความถี่แนะนำตามลักษณะการใช้งาน

🏠 ประเภทสถานที่ 📆 ควรทำความสะอาด
บ้าน / ที่พักอาศัย ทุก 6 เดือน (สภาพแวดล้อมมักมีความสะอาด)
สำนักงาน / ออฟฟิศทั่วไป ทุก 3-6 เดือน (เนื่องจากมีการใช้งานร่วมกันหลายคน)
โรงเรียน / โรงพยาบาล / สถานที่สาธารณะ ทุก 1-3 เดือน (ขึ้นกับจำนวนผู้ใช้)
พื้นที่ใกล้ครัว / อับชื้น / มีฝุ่นมาก ทุก 1-3 เดือน และล้างเมื่อมีคราบ
ร้านค้า / ร้านอาหาร / โรงงาน ทุก 1-3 เดือน หรือบ่อยกว่านั้น หากพบตะไคร่หรือกลิ่นผิดปกติ

📌 ข้อสังเกต : ควรทำความสะอาดก่อนรอบปกติทันทีหากพบว่า…

  • น้ำเริ่มมีกลิ่นหรือรสแปลกๆ
  • มีตะไคร่หรือเมือกจับในถัง
  • มีแมลงหรือฝุ่นเข้าไปในตัวเครื่อง
  • น้ำไหลช้าลง / มีตะกอนในก๊อก

6. วิธีป้องกันคราบและเชื้อโรค
ระหว่างรอบการทำความสะอาด

แม้จะล้างตู้กดน้ำอย่างดีเป็นประจำ แต่ถ้าระหว่างรอบการทำความสะอาด ไม่มีการป้องกันที่เหมาะสม ก็ยังมีโอกาสที่เชื้อโรค ตะไคร่ และคราบสกปรกมีการสะสมมากขึ้นได้ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดกลิ่นอับ น้ำปนเปื้อน หรือแม้กระทั่งอุปกรณ์ชำรุดก่อนเวลา ดังนั้น การดูแลระหว่างรอบการล้างถือเป็นอีกด่านป้องกันสำคัญที่ควรใส่ใจ

1. ใช้ผ้าคลุมหรือฝาครอบหัวจ่ายน้ำ

  • ป้องกันฝุ่น แมลง และเชื้อโรคจากอากาศภายนอก
  • ลดโอกาสที่มดจะเดินเข้าหัวก๊อก หรือแมลงตกลงถัง

💡 แนะนำ : ใช้ฝาครอบซิลิโคนแบบ Food Grade หรือพลาสติกฝาปิดเฉพาะรุ่น

2. อย่าวางตู้ใกล้ถังขยะ / แหล่งความชื้น / พื้นเปียก

  • จุดเหล่านี้เป็นแหล่งรวมแบคทีเรียและเชื้อรา
  • ความชื้นสูงจะทำให้เกิดตะไคร่และกลิ่นเหม็นได้เร็ว

💡แนะนำ : ตั้งตู้ห่างถังขยะอย่างน้อย 1 เมตร และวางในที่อากาศถ่ายเท

3. หมั่นเช็ดก๊อกน้ำหลังใช้งาน

  • น้ำที่หยดค้างปลายก๊อกน้ำ = จุดสะสมของเชื้อโรค
  • ถ้าปล่อยให้แห้งเป็นคราบ จะเกิดเมือกหรือตะไคร่ได้

💡แนะนำ : ใช้ผ้าสะอาดหรือกระดาษทิชชู่เช็ดปลายก๊อกวันละครั้ง

4. เทน้ำส่วนเกินออกจากถาดรองน้ำทุกวัน

  • ถาดรองน้ำคือจุดที่น้ำขังสะสม → อับชื้น → เกิดกลิ่นและตะไคร่
  • ถ้ามีฝุ่นหรือเศษขยะเล็ก ๆ จะเป็นอาหารของแบคทีเรีย

💡แนะนำ : ถอดล้างถาดสัปดาห์ละครั้ง และเช็ดแห้งทุกวัน

5. อย่าปล่อยน้ำค้างในถังนานเกิน 3 วัน (ถ้าไม่ได้ใช้งาน)

  • น้ำที่ค้างนานจะเริ่มเปลี่ยนกลิ่น แม้ยังดูใส
  • โดยเฉพาะตู้ที่มีถังพักด้านในและไม่มีระบบหมุนเวียน

💡แนะนำ : หากไม่ได้ใช้งาน 2–3 วัน ควรระบายน้ำออก แล้วเติมน้ำใหม่

6. หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสหัวก๊อกโดยตรง

  • หัวก๊อกเป็นจุดเสี่ยงต่อการปนเปื้อน
  • ถ้ามือเปื้อนแล้วจับก๊อก → เชื้อโรคลงน้ำทันที

💡แนะนำ : ถ้าจำเป็นต้องล้างก๊อกด้วยมือ ให้ล้างมือก่อนเสมอ

สยามคูลเลอร์ให้บริการด้านเครื่องทำน้ำเย็น ดูแลเอาใจใส่เหมือนคู่หูที่ไม่ทิ้งกัน เป็นที่ปรึกษาได้ยามมีปัญหา ขอเพียงคุณทักมา เรายินดีให้คำปรึกษาฟรีอย่างเต็มที่

7. ข้อควรระวังระหว่างทำความสะอาด

การทำความสะอาดตู้กดน้ำ แม้จะเป็นงานง่ายๆที่ทำเองได้ แต่ถ้าทำผิดวิธีหรือไม่ระวังในบางจุด อาจทำให้เครื่องเสียหาย, เกิดไฟฟ้าลัดวงจร, หรือส่งผลต่อคุณภาพน้ำดื่มได้โดยไม่รู้ตัว ดังนั้นก่อนและระหว่างการทำความสะอาด ต้องระมัดระวังในรายละเอียดต่อไปนี้

🔌 1. ถอดปลั๊กก่อนทำความสะอาดทุกครั้ง

  • เพื่อความปลอดภัยจากไฟฟ้ารั่วหรือไฟช็อต
  • โดยเฉพาะเมื่อต้องล้างภายใน หรือเช็ดใกล้ระบบไฟ

💡 ห้ามล้างหรือฉีดน้ำขณะเสียบปลั๊กเด็ดขาด

💦 2. ห้ามราดน้ำลงบนแผงควบคุมหรือช่องเสียบไฟ

  • แผงควบคุมหน้าจอ, ปุ่มสัมผัส, และช่องเสียบสายไฟมักไวต่อน้ำ
  • หากน้ำเข้า → อาจทำให้วงจรช็อต หรือเครื่องทำงานผิดปกติ

💡 ให้ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ชุบน้ำหมาดๆ เช็ดเบาๆแทน

🧪 3. ใช้น้ำยาที่ปลอดภัย ไม่ทิ้งสารตกค้าง

  • หลีกเลี่ยงน้ำยาทำความสะอาดแรงๆ หรือสารเคมีที่ไม่ปลอดภัย
  • ใช้สูตรธรรมชาติ เช่น น้ำส้มสายชู + เบกกิ้งโซดา หรือผลิตภัณฑ์ Food Grade

💡 ควรล้างตามด้วยน้ำสะอาด 1–2 รอบเพื่อชะล้างให้หมด

🔧 4. ถอดอุปกรณ์อย่างระมัดระวัง

  • เช่น หัวก๊อก ฝาถัง หรือชิ้นส่วนพลาสติกด้านใน
  • หากงัดแรงไป อาจทำให้ข้อต่อหักหรือร้าว

💡 ใช้ไขควงหรือเครื่องมือให้เหมาะกับแต่ละจุด และอย่าฝืนงัดถ้าถอดไม่ออก

ล้างตู้กดน้ำเย็นกับเรา

สยามคูลเลอร์ มาร์ท แอนด์ เซอร์วิส รับบริการล้างตู้ทำน้ำเย็น ถังคว่ำ, ถังล่าง, กรองในตัว, ต่อตรงท่อประปา พร้อมตรวจเช็คอะไหล่ตู้น้ำดื่มด้านใน มีผลงานจริงให้รับชมทั้งรูปภาพและวิดีโอ คลิกปุ่มด้านล่างเพื่ออ่านรายละเอียด

🔥 5. ระวังความร้อนจากถังน้ำร้อน

  • หากเพิ่งใช้งานน้ำร้อน ห้ามถอดฝาถังทันที
  • ความร้อนสะสมอาจทำให้ลวกมือ หรือมีแรงดันดันน้ำออก

💡 รอให้เครื่องเย็นลงก่อน หรือเปิดวาล์วปล่อยน้ำร้อนออกให้หมดก่อนล้าง

⚙️ 6. อย่าขยับเครื่องแรงๆหรือพลิกเครื่องกลับด้าน

  • โดยเฉพาะตู้ที่มีคอมเพรสเซอร์/สารทำความเย็นด้านหลัง
  • การพลิกเครื่องอาจทำให้น้ำมันคอมเพรสเซอร์ไหลผิดทาง → เครื่องพังได้

💡 ถ้าจำเป็นต้องขยับ ให้ยกตรง ห้ามนอนตะแคง

🧯 7. เตรียมพื้นที่ก่อนล้างให้แห้งและปลอดภัย

  • ไม่ล้างใกล้ปลั๊กไฟกับพื้นเปียก
  • ไม่วางอุปกรณ์ไว้บนเครื่องขณะล้าง เพื่อป้องกันของหล่นใส่วงจร

8. ภาพตัวอย่างการล้างตู้กดน้ำยี่ห้อต่างๆ

ตัวอย่างการล้างตู้น้ำดื่ม Toshiba

ตัวอย่างการล้างตู้น้ำเย็น-น้ำร้อน Sharp

ตัวอย่างการล้างเครื่องกดน้ำ Mazuma

ตัวอย่างการล้างตู้ทำน้ำเย็น Sprinkle

ตัวอย่างการล้างตู้กดน้ำร้อน-เย็น Electrolux

สรุป

การทำความสะอาดตู้กดน้ำที่ดี ไม่ใช่แค่การเช็ดภายนอกให้ดูใหม่ แต่ต้องดูแลให้ถึงระบบภายในที่น้ำไหลผ่านจริง เพราะจุดที่เรามองไม่เห็น มักเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค ตะกอน เมือก และสิ่งสกปรกที่อาจส่งผลต่อคุณภาพน้ำ และสุขภาพของผู้ดื่มโดยตรง

✅ สิ่งที่ควรทำเป็นประจำ

  • เช็ดตัวเครื่อง – หัวก๊อก – ถาดรองน้ำ ทุกสัปดาห์
  • ล้างถังเก็บน้ำ – หัวจ่าย – ท่อจ่ายน้ำ ทุก 1–3 เดือน
  • ตรวจและล้างระบบภายใน เช่น คอยล์ พัดลม คอมเพรสเซอร์ ปีละ 1–2 ครั้ง
  • เปลี่ยนไส้กรองน้ำ (ถ้ามี) ตามรอบอายุการใช้งาน
  • ตรวจเช็คสายไฟ – ขั้วต่อ – จุดอับชื้น เพื่อป้องกันอุบัติเหตุไฟฟ้า

💡 ทำไมต้องทำความสะอาดให้ครบทั้งภายนอก–ภายใน?

  • ป้องกันเชื้อโรคและตะไคร่ ที่อาจปนเปื้อนในน้ำ
  • ลดโอกาสเกิดกลิ่นเหม็น/รสแปลกในเครื่องดื่ม
  • ช่วยยืดอายุเครื่องทำน้ำเย็น ไม่ต้องซ่อมหรือเปลี่ยนบ่อย
  • ประหยัดค่าไฟ เพราะเครื่องไม่ต้องทำงานหนักจากคราบฝัง
  • มั่นใจได้ว่าน้ำที่ดื่ม สะอาดจริง ไม่ใช่แค่ใสเฉยๆ

เงื่อนไขการให้บริการ

  1. ราคาขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการให้บริการ เช่น ราคาส่งอย่างเดียว ราคาส่งพร้อมติดตั้ง สามารถสอบถามและขอใบเสนอราคาได้ตามช่องทางติดต่อด้านล่าง
  2. ส่งสินค้าฟรีเฉพาะเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล
  3. หากลูกค้าอยู่ต่างจังหวัด มี 2 กรณี

    3.1 ส่งอย่างเดียวโดยการใช้บริการขนส่ง ค่าขนส่งขึ้นอยู่กับระยะทางและน้ำหนักสินค้า จ่ายต้นทางหรือปลายทางขึ้นอยู่กับการตกลง
    3.2 ทางเราดำเนินการส่งเองพร้อมติดตั้งให้ โดยจะมีการคิดค่าน้ำมันตามระยะทางไป-กลับ

หมายเหตุ : ทางเราไม่ได้มีบริการติดตั้งทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย เช่น ภาคเหนือ ภาคใต้ ทางเราไม่มีบริการติดตั้ง ขึ้นอยู่กับระยะทางและปริมาณการซื้อขาย สามารถทักมาสอบถามพูดคุยเบื้องต้นก่อนได้ตามช่องทางการติดต่อด้านล่าง

  • การติดตั้งไม่รวมถึงการเดินท่อประปา, ท่อน้ำทิ้ง, ปลั๊กไฟ และสายไฟ สิ่งเหล่านี้เป็นความรับผิดชอบของลูกค้า
  • ติดตั้งฟรีหน้างานในระยะไม่เกิน 5 เมตร จากจุดเชื่อมน้ำประปา ก๊อกน้ำ หรือวาล์วน้ำ เป็นสายอ่อน 2 หุน
  • ไม่รับประกันอุปกรณ์ที่เสื่อมสภาพตามการใช้งาน เช่น ก๊อกน้ำ แกนก๊อก ไส้กรองน้ำ
  • มีตู้สำรองให้ใช้ระหว่างการซ่อมตลอดอายุการใช้งาน หากต้องยกตู้เข้าโรงงานเพื่อตรวจเช็ค
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อสินค้า ขอใบเสนอราคา
Line คลิกที่นี่เพื่อ Chat ทันที
E-mail siamcooler1@gmail.com
Facebook @siamcooler
Youtube @siamcooler
ออฟฟิศ 02-539-2630 02-539-2607
  02-538-6343  
มือถือ 092-364-4629 (ฝ่ายขาย) 087-935-1415 (ฝ่ายซ่อมบำรุง)
แฟกซ์ 02-931-1381  

Siamcooler Mart and Service ยินดีให้คำปรึกษาและให้บริการอย่างเต็มความสามารถเพื่อช่วยลูกค้าแก้ปัญหา เปรียบเสมือนแผนกหนึ่งในองค์กรที่ช่วยดูแลเรื่องตู้กดน้ำ ไส้กรองน้ำ เครื่องกรองน้ำ อะไหล่ และบริการบำรุงรักษา เช่น การล้างทำความสะอาด การซ่อมบำรุง การทำสัญญาบริการรายปี

ประสบการณ์กว่า 20 ปี มีฐานลูกค้ามากกว่า 6,000 ราย ได้รับความไว้วางใจจากภาครัฐ เอกชน โรงเรียน ครัวเรือน และขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง จากการบอกต่อของลูกค้าที่ประทับใจในการใช้บริการกับเรา สามารถชื่นชมผลงานที่ผ่านมาของเราได้ที่นี่

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *