ตู้กดน้ำเป็นอุปกรณ์ที่ใช้งานทุกวัน แต่อาจถูกมองข้ามเรื่องการดูแลความสะอาด โดยเฉพาะบริเวณถังพักน้ำ ก๊อกจ่าย หัวจ่ายน้ำ หรือท่อส่งน้ำ ล้วนเป็นจุดที่เชื้อโรคสามารถสะสมได้หากปล่อยไว้นานเกินไป
คราบตะไคร่ กลิ่นอับ เมือก และตะกอนที่เรามองไม่เห็น อาจกลายเป็นสาเหตุของน้ำปนเปื้อน ที่ส่งผลต่อสุขภาพอย่างคาดไม่ถึง เช่น ท้องเสีย กลิ่นไม่พึงประสงค์ หรือแม้แต่เชื้อโรคที่ปนเปื้อนจากการใช้งานร่วมกันในพื้นที่สาธารณะ
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ “วิธีทำความสะอาดตู้กดน้ำอย่างถูกต้อง” ทั้งภายนอกและภายใน พร้อมคำแนะนำเรื่องอุปกรณ์ที่ใช้ ความถี่ที่ควรล้าง และข้อควรระวัง เพื่อให้คุณดูแลตู้กดน้ำได้ด้วยตัวเองแบบง่ายๆ แต่ได้ผลจริง
สารบัญ
1. เตรียมอุปกรณ์ก่อนทำความสะอาดตู้น้ำ
2. ขั้นตอนการทำความสะอาดตู้กดน้ำ (ภายนอก – ภายใน)
3. การทำความสะอาดหัวจ่ายน้ำ ก๊อกน้ำ และถังเก็บน้ำ
4. ทำความสะอาดระบบภายในอย่างไร (หากเข้าถึงได้)
5. ความถี่ในการทำความสะอาดตู้กดน้ำ
6. วิธีป้องกันคราบและเชื้อโรคระหว่างรอบการทำความสะอาด
7. ข้อควรระวังระหว่างทำความสะอาดตู้กดน้ำ
ก่อนเริ่มล้างตู้กดน้ำเย็น ควรเตรียมอุปกรณ์ให้ครบถ้วน เพื่อให้การทำความสะอาด ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และไม่ทำให้เครื่องเสียหายครับ เพราะต้องล้างถังเก็บน้ำและก๊อกน้ำ ซึ่งตำแหน่งบางจุดต้องใช้อุปกรณ์ในการแกะชิ้นส่วนออก
🧰 รายการอุปกรณ์ที่ควรเตรียม
อุปกรณ์ |
ใช้ทำอะไร? |
✅ ผ้าสะอาด/ผ้าไมโครไฟเบอร์ | ใช้เช็ดภายนอกตัวเครื่องให้แห้งและสะอาด |
✅ ฟองน้ำหรือแปรงขนนุ่ม | สำหรับขัดทำความสะอาดถังเก็บน้ำและจุดอับ |
✅ น้ำยาทำความสะอาดปลอดภัย (Food Grade) | ฆ่าเชื้อในถังเก็บน้ำและก๊อก เช่น น้ำส้มสายชู, น้ำยาฟู้ดเกรด |
✅ ถังน้ำสะอาด หรือกะละมัง | ใช้ผสมน้ำยาหรือรองล้างชิ้นส่วน |
✅ แอลกอฮอล์ 70% หรือเบกกิ้งโซดา | เช็ดฆ่าเชื้อบริเวณก๊อกน้ำ, ปุ่มกด หรือถาดรองน้ำ |
✅ ไขควง (ถ้าจำเป็นต้องถอดฝาครอบ/ก๊อก) | ใช้ในการถอดส่วนประกอบเครื่องเพื่อทำความสะอาดภายใน |
✅ ถุงมือยาง | ป้องกันมือจากสารทำความสะอาด และสิ่งสกปรก |
✅ ขวดสเปรย์ (ถ้ามี) | ฉีดน้ำยาทำความสะอาดให้ทั่วถึง |
✅ เครื่องมือทดสอบน้ำ (ถ้ามี) | ตรวจคุณภาพน้ำหลังทำความสะอาด เช่น TDS meter |
การล้างตู้กดน้ำไม่ใช่แค่ล้างน้ำเฉยๆแล้วจบ แต่ต้องมีการดูแลทั้งภายนอกและภายใน เพราะแต่ละส่วนมีหน้าที่ต่างกัน และสามารถเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคได้ถ้าปล่อยปละละเลย
การทำความสะอาดอย่างถูกวิธี ไม่เพียงช่วยให้น้ำดื่มสะอาดปลอดภัย แต่ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องได้อีกด้วย
👉 ขั้นตอนที่ 1 : เตรียมอุปกรณ์ และถอดปลั๊กเครื่องทำน้ำเย็น
- ปิดเครื่อง ถอดปลั๊กออกจากเต้ารับ เพื่อความปลอดภัยจากไฟฟ้าช็อต
- เตรียมอุปกรณ์ทำความสะอาดให้ครบถ้วน (ดูในหัวข้อก่อนหน้า)
- เตรียมน้ำอุ่นผสมน้ำยาทำความสะอาดฟู้ดเกรด (หรือเบกกิ้งโซดา/น้ำส้มสายชู)
👉 ขั้นตอนที่ 2 : ทำความสะอาดภายนอกตัวเครื่อง
จุดที่ควรทำความสะอาด |
วิธีทำ |
🔹 ผิวตัวเครื่อง | ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ชุบน้ำหมาด เช็ดฝุ่น/คราบ |
🔹 ก๊อกน้ำและปุ่มกด | ใช้แปรงขนอ่อนหรือสำลีชุบน้ำยาฆ่าเชื้อเช็ดรอบๆก๊อก |
🔹 ถาดรองน้ำ | ถอดออกมาล้างด้วยน้ำสบู่อ่อน ล้างให้สะอาดและเช็ดให้แห้ง |
🔹 ช่องระบายอากาศ | ใช้แปรงปัดฝุ่น/เครื่องดูดฝุ่นขนาดเล็กทำความสะอาดช่องพัดลม |
📌 ควรเน้นจุดที่มือสัมผัสบ่อย เช่น ปุ่มกด ก๊อกน้ำ เพราะเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค
👉 ขั้นตอนที่ 3 : ทำความสะอาดภายในถังเก็บน้ำ และระบบน้ำ
จุดสำคัญ |
วิธีล้าง |
🔹 ถังเก็บน้ำเย็น | เปิดฝาถัง ล้างด้วยน้ำอุ่นผสมน้ำส้มสายชู (หรือน้ำยาฆ่าเชื้อ Food Grade) ทิ้งไว้ 10–15 นาที จากนั้นล้างออกให้สะอาด |
🔹 ถังน้ำร้อน (ถ้ามี) | ใช้เฉพาะน้ำสะอาดล้าง ห้ามใช้น้ำยาแรงๆหรือสารกัดกร่อนเด็ดขาด |
🔹 ท่อน้ำภายใน | กดน้ำออกหลายๆครั้งหลังล้าง เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีน้ำยาหลงเหลือ |
👉 ขั้นตอนที่ 4: เช็คไส้กรอง (ถอด/เปลี่ยนถ้าจำเป็น)
- ตรวจสอบสภาพของไส้กรองน้ำ (ควรเปลี่ยนทุก 6–12 เดือน)
- ถ้าไส้กรองดำ เปื่อย หรือมีคราบสกปรก = ควรเปลี่ยนชุดใหม่
- จดบันทึกวันที่เปลี่ยนล่าสุด เพื่อวางแผนล้างรอบถัดไป
👉 ขั้นตอนที่ 5 : เช็ดให้แห้ง และเปิดฝาให้ระบายอากาศ
- เช็ดทุกจุดให้แห้งสนิท โดยเฉพาะภายในถังเก็บน้ำ
- เปิดฝาเครื่องทิ้งไว้ 1–2 ชม. ให้ภายในแห้งสนิทก่อนเสียบปลั๊ก
- เมื่อแน่ใจว่าแห้งดีแล้ว จึงเสียบปลั๊กและใช้งานตามปกติ
💡 เคล็ดลับจากมือโปร
- ใช้แบบฟอร์มเช็คความสะอาดแต่ละจุด เพื่อให้ไม่ลืมล้าง
- ล้างอย่างน้อยทุก 1–3 เดือน หรือทุก 6 เดือน แม้จะไม่มีคราบปรากฏ
- ถ้าตู้มีกลิ่นอับแม้ภายนอกดูสะอาด = ต้องล้างภายในทันที
จุดที่น้ำไหลผ่านมากที่สุด ก็คือ หัวจ่ายน้ำ ก๊อกน้ำ และ ถังเก็บน้ำด้านใน ถ้าล้างไม่บ่อยมากพอ หรือมีน้ำขังอยู่ตลอดเวลา จะเสี่ยงสูงต่อการสะสมของ เชื้อรา ตะไคร่น้ำ และแบคทีเรีย การทำความสะอาดทั้ง 3 จุดนี้ ต้องทำอย่างละเอียด เพราะเป็นหัวใจสำคัญของสุขอนามัยในการดื่มน้ำ ไม่ว่าจะในบ้าน โรงงาน หรือสำนักงาน
3.1 การทำความสะอาดหัวจ่ายน้ำ / ก๊อกน้ำ
📌 ความสำคัญ : ก๊อกน้ำหรือหัวจ่ายน้ำเป็นจุดที่เราสัมผัสทุกครั้งที่ใช้งาน และยังเป็นทางผ่านของน้ำดื่มโดยตรง
ถ้าไม่สะอาด → น้ำที่ออกมาอาจปนเปื้อนสิ่งสกปรกหรือเชื้อโรคได้ทันที
🧽 วิธีทำความสะอาด :
- ถอดหัวจ่ายน้ำออก (ถ้าเป็นรุ่นถอดได้)
- ใช้แปรงขนอ่อน/แปรงสีฟันเก่า จุ่มน้ำอุ่นผสมน้ำส้มสายชู หรือเบกกิ้งโซดา ขัดบริเวณหัวจ่ายและปากก๊อก
- ล้างด้วยน้ำสะอาด แล้วเช็ดให้แห้ง
- ใช้แอลกอฮอล์ 70% เช็ดซ้ำเพื่อฆ่าเชื้อโรค
- หมุนกลับเข้าที่ให้แน่น
3.2 การทำความสะอาดถังเก็บน้ำ
📌 ความสำคัญ : ถังเก็บน้ำคือแหล่งพักน้ำก่อนกดน้ำดื่มจริง
ถ้าสกปรก = น้ำที่ใสแค่ภายนอก อาจเต็มไปด้วยเชื้อโรคที่ตาเปล่ามองไม่เห็น
🧼 วิธีล้างถังตู้น้ำอย่างถูกต้อง :
- ปิดเครื่องและถอดปลั๊ก
- เปิดฝาถังน้ำ → เทน้ำเก่าออกให้หมด
- ล้างถังด้วยน้ำสะอาด 1 รอบ
- ผสมน้ำอุ่นกับน้ำส้มสายชู (อัตรา 1:1) หรือใช้น้ำยาทำความสะอาดแบบ Food Grade
- ใช้ฟองน้ำสะอาดหรือผ้าไมโครไฟเบอร์ เช็ดถูภายในถังอย่างทั่วถึง
- ล้างออกด้วยน้ำสะอาด 2–3 รอบ จนไม่มีฟองหรือน้ำยาตกค้าง
- เช็ดให้แห้งด้วยผ้าสะอาด
- เปิดฝาถังทิ้งไว้ให้ถังแห้งสนิท 100% ก่อนใช้งานใหม่
แม้การเช็ดภายนอกจะทำให้ตู้กดน้ำดูสะอาด แต่ระบบภายใน ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะเป็นจุดที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของเครื่องโดยตรง เช่น การทำความเย็น การระบายความร้อน และระบบควบคุมต่างๆ หากมีฝุ่นสะสม ความชื้น หรือตะกรัน จะทำให้เครื่องทำงานหนัก เสื่อมเร็ว และเสี่ยงต่อไฟฟ้าลัดวงจรได้ จุดที่ควรตรวจและทำความสะอาด มีดังนี้
🔧 1. คอยล์เย็น (บริเวณถังน้ำเย็น)
- ถ้าเปิดฝาด้านในหรือตรงจุดที่น้ำไหลผ่านแล้วจะเห็นท่อคอยล์เย็น
- ใช้ผ้าแห้งเช็ดคราบขาว/คราบตะกอนรอบท่อให้หมด
- ห้ามใช้น้ำราดลงโดยตรง (เพราะอาจเกิดไฟรั่ว)
💡 เคล็ดลับ : คอยล์สะอาด = น้ำเย็นเร็วขึ้น และประหยัดไฟ
🔧 2. คอมเพรสเซอร์ด้านหลังเครื่อง
- ปิดเครื่องและถอดปลั๊กก่อนทุกครั้ง
- ใช้แปรงหรือไม้ปัดฝุ่นแบบขนยาว ค่อยๆปัดฝุ่นออกจากตัวคอมเพรสเซอร์
- หากปัดไม่ออก ให้นำแปรงจุ่มน้ำหมาดๆแล้วปัดอีกครั้ง
- อย่าราดน้ำ หรือใช้ผ้าเปียกเช็ดโดยตรง
📌 หากมีการสะสมฝุ่นมาก = เครื่องระบายความร้อนไม่ดี = เสี่ยงร้อนเกิน/คอมเพรสเซอร์เสีย
🔧 3. พัดลมระบายความร้อน (บางรุ่น)
- ใช้ไฟฉายส่องดูว่าใบพัดหมุนสะดวกหรือมีฝุ่นจับหนาไหม
- ถ้าเข้าถึงได้ ให้ใช้แปรงขนนุ่มหรือลมเป่าไล่ฝุ่นออกเบาๆ
- ห้ามใช้น้ำ หรือแยงเข้าไปหมุน เพราะอาจทำให้ใบพัดเสียศูนย์
🔧 4. แผ่นกรองอากาศ (ถ้ามี)
- บางตู้มีแผ่นกรองฝุ่น คล้ายๆแผ่นฟองน้ำหรือตะแกรงตาข่าย
- ถอดออกมาล้างด้วยน้ำเปล่า แล้วตากให้แห้งสนิทก่อนใส่กลับ
- แนะนำล้างทุก 2–3 เดือน
🔧 5. สายไฟและขั้วต่อไฟฟ้า
- ตรวจสอบจุดต่อสายไฟภายใน ว่ามีคราบดำ / รอยไหม้ หรือหลวมไหม
- ใช้ผ้าแห้งเช็ดฝุ่นบริเวณกล่องไฟหรือ PCB (ห้ามใช้น้ำ)
- หากเห็นสายละลายหรือไหม้ → ต้องเปลี่ยนหรือให้ช่างเช็ค
การทำความสะอาดตู้กดน้ำไม่ใช่แค่ทำเมื่อสกปรก แต่ควรมีรอบการดูแลที่สม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าน้ำที่ออกมาสะอาด ปลอดเชื้อโรค และทำงานได้เต็มประสิทธิภาพตลอดอายุการใช้งาน ความถี่ในการทำความสะอาดควรพิจารณาตามสภาพแวดล้อมและการใช้งานจริง
🗓️ ความถี่แนะนำตามลักษณะการใช้งาน
🏠 ประเภทสถานที่ | 📆 ควรทำความสะอาด |
บ้าน / ที่พักอาศัย | ทุก 6 เดือน (สภาพแวดล้อมมักมีความสะอาด) |
สำนักงาน / ออฟฟิศทั่วไป | ทุก 3-6 เดือน (เนื่องจากมีการใช้งานร่วมกันหลายคน) |
โรงเรียน / โรงพยาบาล / สถานที่สาธารณะ | ทุก 1-3 เดือน (ขึ้นกับจำนวนผู้ใช้) |
พื้นที่ใกล้ครัว / อับชื้น / มีฝุ่นมาก | ทุก 1-3 เดือน และล้างเมื่อมีคราบ |
ร้านค้า / ร้านอาหาร / โรงงาน | ทุก 1-3 เดือน หรือบ่อยกว่านั้น หากพบตะไคร่หรือกลิ่นผิดปกติ |
แม้จะล้างตู้กดน้ำอย่างดีเป็นประจำ แต่ถ้าระหว่างรอบการทำความสะอาด ไม่มีการป้องกันที่เหมาะสม ก็ยังมีโอกาสที่เชื้อโรค ตะไคร่ และคราบสกปรกมีการสะสมมากขึ้นได้ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดกลิ่นอับ น้ำปนเปื้อน หรือแม้กระทั่งอุปกรณ์ชำรุดก่อนเวลา ดังนั้น การดูแลระหว่างรอบการล้างถือเป็นอีกด่านป้องกันสำคัญที่ควรใส่ใจ
1. ใช้ผ้าคลุมหรือฝาครอบหัวจ่ายน้ำ
- ป้องกันฝุ่น แมลง และเชื้อโรคจากอากาศภายนอก
- ลดโอกาสที่มดจะเดินเข้าหัวก๊อก หรือแมลงตกลงถัง
💡 แนะนำ : ใช้ฝาครอบซิลิโคนแบบ Food Grade หรือพลาสติกฝาปิดเฉพาะรุ่น
2. อย่าวางตู้ใกล้ถังขยะ / แหล่งความชื้น / พื้นเปียก
- จุดเหล่านี้เป็นแหล่งรวมแบคทีเรียและเชื้อรา
- ความชื้นสูงจะทำให้เกิดตะไคร่และกลิ่นเหม็นได้เร็ว
💡แนะนำ : ตั้งตู้ห่างถังขยะอย่างน้อย 1 เมตร และวางในที่อากาศถ่ายเท
3. หมั่นเช็ดก๊อกน้ำหลังใช้งาน
- น้ำที่หยดค้างปลายก๊อกน้ำ = จุดสะสมของเชื้อโรค
- ถ้าปล่อยให้แห้งเป็นคราบ จะเกิดเมือกหรือตะไคร่ได้
💡แนะนำ : ใช้ผ้าสะอาดหรือกระดาษทิชชู่เช็ดปลายก๊อกวันละครั้ง
4. เทน้ำส่วนเกินออกจากถาดรองน้ำทุกวัน
- ถาดรองน้ำคือจุดที่น้ำขังสะสม → อับชื้น → เกิดกลิ่นและตะไคร่
- ถ้ามีฝุ่นหรือเศษขยะเล็ก ๆ จะเป็นอาหารของแบคทีเรีย
💡แนะนำ : ถอดล้างถาดสัปดาห์ละครั้ง และเช็ดแห้งทุกวัน
5. อย่าปล่อยน้ำค้างในถังนานเกิน 3 วัน (ถ้าไม่ได้ใช้งาน)
- น้ำที่ค้างนานจะเริ่มเปลี่ยนกลิ่น แม้ยังดูใส
- โดยเฉพาะตู้ที่มีถังพักด้านในและไม่มีระบบหมุนเวียน
💡แนะนำ : หากไม่ได้ใช้งาน 2–3 วัน ควรระบายน้ำออก แล้วเติมน้ำใหม่
6. หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสหัวก๊อกโดยตรง
- หัวก๊อกเป็นจุดเสี่ยงต่อการปนเปื้อน
- ถ้ามือเปื้อนแล้วจับก๊อก → เชื้อโรคลงน้ำทันที
💡แนะนำ : ถ้าจำเป็นต้องล้างก๊อกด้วยมือ ให้ล้างมือก่อนเสมอ
การทำความสะอาดตู้กดน้ำ แม้จะเป็นงานง่ายๆที่ทำเองได้ แต่ถ้าทำผิดวิธีหรือไม่ระวังในบางจุด อาจทำให้เครื่องเสียหาย, เกิดไฟฟ้าลัดวงจร, หรือส่งผลต่อคุณภาพน้ำดื่มได้โดยไม่รู้ตัว ดังนั้นก่อนและระหว่างการทำความสะอาด ต้องระมัดระวังในรายละเอียดต่อไปนี้
🔌 1. ถอดปลั๊กก่อนทำความสะอาดทุกครั้ง
- เพื่อความปลอดภัยจากไฟฟ้ารั่วหรือไฟช็อต
- โดยเฉพาะเมื่อต้องล้างภายใน หรือเช็ดใกล้ระบบไฟ
💡 ห้ามล้างหรือฉีดน้ำขณะเสียบปลั๊กเด็ดขาด
💦 2. ห้ามราดน้ำลงบนแผงควบคุมหรือช่องเสียบไฟ
- แผงควบคุมหน้าจอ, ปุ่มสัมผัส, และช่องเสียบสายไฟมักไวต่อน้ำ
- หากน้ำเข้า → อาจทำให้วงจรช็อต หรือเครื่องทำงานผิดปกติ
💡 ให้ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ชุบน้ำหมาดๆ เช็ดเบาๆแทน
🧪 3. ใช้น้ำยาที่ปลอดภัย ไม่ทิ้งสารตกค้าง
- หลีกเลี่ยงน้ำยาทำความสะอาดแรงๆ หรือสารเคมีที่ไม่ปลอดภัย
- ใช้สูตรธรรมชาติ เช่น น้ำส้มสายชู + เบกกิ้งโซดา หรือผลิตภัณฑ์ Food Grade
💡 ควรล้างตามด้วยน้ำสะอาด 1–2 รอบเพื่อชะล้างให้หมด
🔧 4. ถอดอุปกรณ์อย่างระมัดระวัง
- เช่น หัวก๊อก ฝาถัง หรือชิ้นส่วนพลาสติกด้านใน
- หากงัดแรงไป อาจทำให้ข้อต่อหักหรือร้าว
💡 ใช้ไขควงหรือเครื่องมือให้เหมาะกับแต่ละจุด และอย่าฝืนงัดถ้าถอดไม่ออก
ล้างตู้กดน้ำเย็นกับเรา
สยามคูลเลอร์ มาร์ท แอนด์ เซอร์วิส รับบริการล้างตู้ทำน้ำเย็น ถังคว่ำ, ถังล่าง, กรองในตัว, ต่อตรงท่อประปา พร้อมตรวจเช็คอะไหล่ตู้น้ำดื่มด้านใน มีผลงานจริงให้รับชมทั้งรูปภาพและวิดีโอ คลิกปุ่มด้านล่างเพื่ออ่านรายละเอียด
🔥 5. ระวังความร้อนจากถังน้ำร้อน
- หากเพิ่งใช้งานน้ำร้อน ห้ามถอดฝาถังทันที
- ความร้อนสะสมอาจทำให้ลวกมือ หรือมีแรงดันดันน้ำออก
💡 รอให้เครื่องเย็นลงก่อน หรือเปิดวาล์วปล่อยน้ำร้อนออกให้หมดก่อนล้าง
⚙️ 6. อย่าขยับเครื่องแรงๆหรือพลิกเครื่องกลับด้าน
- โดยเฉพาะตู้ที่มีคอมเพรสเซอร์/สารทำความเย็นด้านหลัง
- การพลิกเครื่องอาจทำให้น้ำมันคอมเพรสเซอร์ไหลผิดทาง → เครื่องพังได้
💡 ถ้าจำเป็นต้องขยับ ให้ยกตรง ห้ามนอนตะแคง
🧯 7. เตรียมพื้นที่ก่อนล้างให้แห้งและปลอดภัย
- ไม่ล้างใกล้ปลั๊กไฟกับพื้นเปียก
- ไม่วางอุปกรณ์ไว้บนเครื่องขณะล้าง เพื่อป้องกันของหล่นใส่วงจร
ตัวอย่างการล้างตู้น้ำเย็น-น้ำร้อน Sharp
ตัวอย่างการล้างเครื่องกดน้ำ Mazuma
ตัวอย่างการล้างตู้ทำน้ำเย็น Sprinkle
ตัวอย่างการล้างตู้กดน้ำร้อน-เย็น Electrolux
การทำความสะอาดตู้กดน้ำที่ดี ไม่ใช่แค่การเช็ดภายนอกให้ดูใหม่ แต่ต้องดูแลให้ถึงระบบภายในที่น้ำไหลผ่านจริง เพราะจุดที่เรามองไม่เห็น มักเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค ตะกอน เมือก และสิ่งสกปรกที่อาจส่งผลต่อคุณภาพน้ำ และสุขภาพของผู้ดื่มโดยตรง
✅ สิ่งที่ควรทำเป็นประจำ
- เช็ดตัวเครื่อง – หัวก๊อก – ถาดรองน้ำ ทุกสัปดาห์
- ล้างถังเก็บน้ำ – หัวจ่าย – ท่อจ่ายน้ำ ทุก 1–3 เดือน
- ตรวจและล้างระบบภายใน เช่น คอยล์ พัดลม คอมเพรสเซอร์ ปีละ 1–2 ครั้ง
- เปลี่ยนไส้กรองน้ำ (ถ้ามี) ตามรอบอายุการใช้งาน
- ตรวจเช็คสายไฟ – ขั้วต่อ – จุดอับชื้น เพื่อป้องกันอุบัติเหตุไฟฟ้า
💡 ทำไมต้องทำความสะอาดให้ครบทั้งภายนอก–ภายใน?
- ป้องกันเชื้อโรคและตะไคร่ ที่อาจปนเปื้อนในน้ำ
- ลดโอกาสเกิดกลิ่นเหม็น/รสแปลกในเครื่องดื่ม
- ช่วยยืดอายุเครื่องทำน้ำเย็น ไม่ต้องซ่อมหรือเปลี่ยนบ่อย
- ประหยัดค่าไฟ เพราะเครื่องไม่ต้องทำงานหนักจากคราบฝัง
- มั่นใจได้ว่าน้ำที่ดื่ม สะอาดจริง ไม่ใช่แค่ใสเฉยๆ
เงื่อนไขการให้บริการ
- ราคาขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการให้บริการ เช่น ราคาส่งอย่างเดียว ราคาส่งพร้อมติดตั้ง สามารถสอบถามและขอใบเสนอราคาได้ตามช่องทางติดต่อด้านล่าง
- ส่งสินค้าฟรีเฉพาะเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล
- หากลูกค้าอยู่ต่างจังหวัด มี 2 กรณี
3.1 ส่งอย่างเดียวโดยการใช้บริการขนส่ง ค่าขนส่งขึ้นอยู่กับระยะทางและน้ำหนักสินค้า จ่ายต้นทางหรือปลายทางขึ้นอยู่กับการตกลง
3.2 ทางเราดำเนินการส่งเองพร้อมติดตั้งให้ โดยจะมีการคิดค่าน้ำมันตามระยะทางไป-กลับ
หมายเหตุ : ทางเราไม่ได้มีบริการติดตั้งทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย เช่น ภาคเหนือ ภาคใต้ ทางเราไม่มีบริการติดตั้ง ขึ้นอยู่กับระยะทางและปริมาณการซื้อขาย สามารถทักมาสอบถามพูดคุยเบื้องต้นก่อนได้ตามช่องทางการติดต่อด้านล่าง
- การติดตั้งไม่รวมถึงการเดินท่อประปา, ท่อน้ำทิ้ง, ปลั๊กไฟ และสายไฟ สิ่งเหล่านี้เป็นความรับผิดชอบของลูกค้า
- ติดตั้งฟรีหน้างานในระยะไม่เกิน 5 เมตร จากจุดเชื่อมน้ำประปา ก๊อกน้ำ หรือวาล์วน้ำ เป็นสายอ่อน 2 หุน
- ไม่รับประกันอุปกรณ์ที่เสื่อมสภาพตามการใช้งาน เช่น ก๊อกน้ำ แกนก๊อก ไส้กรองน้ำ
- มีตู้สำรองให้ใช้ระหว่างการซ่อมตลอดอายุการใช้งาน หากต้องยกตู้เข้าโรงงานเพื่อตรวจเช็ค
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อสินค้า ขอใบเสนอราคา
Line | คลิกที่นี่เพื่อ Chat ทันที | |
siamcooler1@gmail.com | ||
@siamcooler | ||
Youtube | @siamcooler | |
ออฟฟิศ | 02-539-2630 | 02-539-2607 |
02-538-6343 | ||
มือถือ | 092-364-4629 (ฝ่ายขาย) | 087-935-1415 (ฝ่ายซ่อมบำรุง) |
แฟกซ์ | 02-931-1381 |
Siamcooler Mart and Service ยินดีให้คำปรึกษาและให้บริการอย่างเต็มความสามารถเพื่อช่วยลูกค้าแก้ปัญหา เปรียบเสมือนแผนกหนึ่งในองค์กรที่ช่วยดูแลเรื่องตู้กดน้ำ ไส้กรองน้ำ เครื่องกรองน้ำ อะไหล่ และบริการบำรุงรักษา เช่น การล้างทำความสะอาด การซ่อมบำรุง การทำสัญญาบริการรายปี
ประสบการณ์กว่า 20 ปี มีฐานลูกค้ามากกว่า 6,000 ราย ได้รับความไว้วางใจจากภาครัฐ เอกชน โรงเรียน ครัวเรือน และขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง จากการบอกต่อของลูกค้าที่ประทับใจในการใช้บริการกับเรา สามารถชื่นชมผลงานที่ผ่านมาของเราได้ที่นี่