ตะกรัน คืออะไร? มีวิธีป้องกันและกำจัดอย่างไร อันตรายไหม?

ตะกรัน คืออะไร อันตรายไหม

สารบัญ

1. ตะกรัน คืออะไร? เกิดจากอะไร?

2. เรามักจะเจอคราบตะกรันที่ไหนบ้าง?

3. ตะกรัน เป็นอันตรายต่อสุขภาพไหม?

4. ตะกรันส่งผลเสียอย่างไรในชีวิตประจำวัน?

5. เราจะป้องกันคราบตะกรันได้อย่างไร?

6. วิธีล้างและกำจัดคราบตะกรัน

7. ตะกรันกับตะกอน แตกต่างกันอย่างไร?

8. คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

สรุป

1. ตะกรัน คืออะไร เกิดจากอะไร?

ตะกรัน คือ คราบปูนขาวที่เกิดขึ้นเมื่อแร่ธาตุในน้ำ โดยเฉพาะแคลเซียมและแมกนีเซียม ตกตะกอนและแข็งตัวเกาะติดบนพื้นผิวต่างๆที่สัมผัสกับน้ำ ตะกรันมักพบในน้ำกระด้าง ซึ่งเป็นน้ำที่มีแร่ธาตุเหล่านี้ละลายอยู่ในปริมาณสูง โดยทั่วไปน้ำจะถือว่ากระด้างเมื่อมีแคลเซียมคาร์บอเนตมากกว่า 150-200 มิลลิกรัมต่อลิตร

สาเหตุการเกิดตะกรัน

  1. น้ำกระด้าง เป็นน้ำที่มีแคลเซียมคาร์บอเนต (CaCO₃) และแมกนีเซียมคาร์บอเนต (MgCO₃) ละลายอยู่ เมื่อน้ำเหล่านี้ได้รับความร้อนหรือมีการระเหย แร่ธาตุจะตกผลึกและแข็งตัวเป็นตะกรัน
  2. อุณหภูมิสูง เป็นปัจจัยสำคัญในการเร่งให้เกิดตะกรัน เมื่อน้ำร้อนขึ้น ความสามารถในการละลายของแคลเซียมและแมกนีเซียมจะลดลง ทำให้แร่ธาตุตกตะกอนออกมาจากน้ำ นี่คือเหตุผลที่เครื่องทำน้ำอุ่นและกาต้มน้ำมักมีปัญหาตะกรันมากกว่าท่อน้ำเย็น
  3. ระดับ pH ของน้ำ – ส่งผลต่อการเกิดตะกรันอย่างมาก โดยน้ำที่มีค่า pH สูง หรือน้ำด่าง (pH มากกว่า 7.5) จะเอื้อต่อการเกิดตะกรันมากกว่าน้ำที่มีค่า pH ต่ำ
  4. การระเหยของน้ำ เมื่อน้ำระเหยออกไป แร่ธาตุที่เคยละลายอยู่จะเหลือทิ้งไว้และตกผลึกเป็นตะกรัน โดยเฉพาะบริเวณพื้นผิวที่แห้ง เช่น ขอบก๊อกน้ำ ขอบอ่าง หรือพื้นผิวกระจก

อ่านต่อ : น้ำด่าง คืออะไร? มีประโยชน์และข้อดี ข้อเสียอย่างไร?

ตะกรันที่เกิดขึ้นจะมีลักษณะเป็นชั้นแข็งสีขาวหรือขาวเทา มีผิวหยาบ และเกาะติดแน่นกับพื้นผิว ยิ่งปล่อยทิ้งไว้นานเท่าไหร่ ตะกรันจะยิ่งหนาและแข็งมากขึ้น ลดประสิทธิภาพของเครื่องใช้ไฟฟ้า ใช้พลังงานเพิ่มมากขึ้น ทำให้ท่อและวาล์วอุดตัน การไหลของน้ำลดลง ส่งผลต่อรสชาติและคุณภาพของน้ำดื่ม

2. เรามักจะเจอคราบตะกรันที่ไหนบ้าง?

ตะกรันมักพบในบริเวณที่มีน้ำไหลผ่านและมีอุณหภูมิสูง หรือบริเวณที่น้ำสามารถระเหยได้ง่าย โดยจุดที่พบบ่อยที่สุดสามารถแบ่งได้ดังนี้

2.1 เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว

  • กาต้มน้ำไฟฟ้า : เป็นอุปกรณ์ที่มีปัญหาตะกรันมากที่สุด เนื่องจากมีการต้มน้ำที่อุณหภูมิสูงเป็นประจำ ตะกรันจะสะสมที่ก้นกา รอบขดลวดความร้อน และผนังด้านใน ทำให้กาต้มน้ำใช้เวลาต้มนานขึ้นและสิ้นเปลืองไฟฟ้า
  • เครื่องชงกาแฟ : จะมีตะกรันสะสมภายในระบบท่อน้ำ ถังน้ำ และหัวชง ส่งผลต่อรสชาติกาแฟ ทำให้กาแฟมีรสขม กลิ่นแปลก และอาจมีเศษตะกรันผสมมา
  • เครื่องทำน้ำเย็น : จะมีตะกรันสะสมในส่วนของถังน้ำ ระบบท่อภายใน และบริเวณที่มีการทำความร้อนหรือความเย็น

2.2 อุปกรณ์ในห้องน้ำ

  • ก๊อกน้ำทุกประเภท : จะมีคราบตะกรันสีขาวเกาะรอบหัวก๊อก จุดที่น้ำไหลออก และบริเวณที่น้ำกระเด็น โดยเฉพาะก๊อกน้ำร้อนจะมีปัญหามากกว่าก๊อกน้ำเย็น
  • หัวฝักบัวอาบน้ำ : จะมีตะกรันอุดตันรูฉีดน้ำ ทำให้แรงดันน้ำลดลง น้ำออกไม่เท่ากัน และอาจมีการสเปรย์น้ำไปทิศทางที่ไม่ต้องการ
  • กระเบื้องและผนังห้องน้ำ : โดยเฉพาะบริเวณที่ถูกน้ำกระเด็นจากการอาบน้ำ จะมีคราบตะกรันตามรอยหยดน้ำ ทำให้ผนังและกระเบื้องดูขุ่นขาวและไม่สะอาด

2.3 เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่

  • เครื่องทำน้ำอุ่น : จะมีตะกรันสะสมภายในถังน้ำ รอบองค์ประกอบความร้อน และในท่อต่างๆ ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าสูงขึ้น อายุการใช้งานสั้นลง
  • เครื่องซักผ้า : จะมีตะกรันสะสมในท่อน้ำเข้า ถังซัก และระบบปั่นแห้ง ส่งผลต่อประสิทธิภาพการซัก ทำให้ผงซักฟอกทำงานไม่เต็มที่
  • เครื่องล้างจาน : จะมีตะกรันในระบบฉีดน้ำ ท่อระบายน้ำ และตัวกรองภายใน ทำให้ล้างจานได้ไม่สะอาด มีคราบขาวติดบนจานชาม

อ่านต่อ : น้ำประปา กินได้ไหม? ในประเทศไทย อันตรายหรือปลอดภัย?

ตะกรัน ก๊อกน้ำ

3. ตะกรัน เป็นอันตรายต่อสุขภาพไหม?

ตะกรันไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพโดยตรง เนื่องจากประกอบด้วยแคลเซียมและแมกนีเซียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายมนุษย์ และเป็นสารที่พบได้ตามธรรมชาติในอาหารหลายประเภท เช่น นม ผักใบเขียว ถั่ว และเมล็ดธัญพืช

อย่างไรก็ตาม การบริโภคน้ำที่มีแร่ธาตุเหล่านี้ในปริมาณสูงอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในบางกรณี โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงหรือโรคประจำตัวบางประเภท

3.1 ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

  • นิ่วในไต : เป็นความเสี่ยงหลักที่อาจเกิดจากการดื่มน้ำกระด้างที่มีแคลเซียมสูงเป็นระยะเวลานาน โดยเฉพาะในผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นนิ่วในไต มีการดื่มน้ำน้อย หรือมีอาหารการกินที่มีแคลเซียมสูง
  • ปัญหาระบบย่อยอาหาร : บางคนที่มีความไวต่อแร่ธาตุ หรือมีปัญหาระบบย่อยอาหารอยู่แล้ว อาจมีอาการท้องผูก ท้องอืด หรือท้องเสียเมื่อดื่มน้ำกระด้างในปริมาณมาก
  • ปัญหาผิวหนังและเส้นผม : สำหรับผู้ที่มีผิวหนังแพ้ง่าย การอาบน้ำกระด้างเป็นประจำอาจทำให้ผิวแห้ง คัน หรือระคายเคือง เส้นผมอาจดูหยาบ ไม่เงางาม

3.2 การป้องกันความเสี่ยงต่อสุขภาพ

หากกังวลเรื่องคุณภาพน้ำและผลกระทบต่อสุขภาพ มีหลายวิธีในการลดความเสี่ยง :

  • ติดตั้งเครื่องกรองน้ำ : เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยเครื่องกรองน้ำระบบ RO (Reverse Osmosis) จะกรองแร่ธาตุออกได้เกือบ 100% ส่วนระบบ UF (Ultrafiltration) ร่วมกับไส้กรองเรซิ่นจะกรองเชื้อโรคและลดความกระด้างได้พอสมควร
  • ดื่มน้ำหลากหลายแหล่ง : ไม่ควรดื่มเฉพาะน้ำกระด้าง หรือเฉพาะน้ำที่กรองแร่ธาตุออกหมด ควรดื่มน้ำจากแหล่งที่หลากหลาย เพื่อให้ได้สมดุลของแร่ธาตุที่เหมาะสม
  • ตรวจสุขภาพเป็นระยะ : สำหรับผู้ที่อยู่ในพื้นที่น้ำกระด้างสูง ควรตรวจสุขภาพเป็นประจำ โดยเฉพาะการตรวจระดับแคลเซียมในเลือด การทำงานของไต และการตรวจหานิ่วในไต

อ่านต่อ : น้ำ RO คืออะไร? มีคุณสมบัติอะไร? มีข้อดี ข้อเสียยังไง?

4. ตะกรันส่งผลเสียอย่างไรในชีวิตประจำวัน?

การสะสมของตะกรันส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันในหลายด้าน ทั้งในเรื่องของประสิทธิภาพ ความสวยงาม และค่าใช้จ่าย

4.1 ประสิทธิภาพเครื่องใช้ไฟฟ้าลดลง

ตะกรันที่สะสมในเครื่องใช้ไฟฟ้าจะทำให้ประสิทธิภาพลดลงอย่างเห็นได้ชัด เครื่องทำน้ำอุ่นที่มีตะกรันจะใช้เวลาทำน้ำร้อนนานขึ้น 20-30% และค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 15-25% ในกรณีที่ตะกรันหนามาก อาจทำให้องค์ประกอบความร้อนเสียหายและต้องเปลี่ยนใหม่

กาต้มน้ำไฟฟ้าที่มีตะกรันจะต้มน้ำช้าลง เสียงดังขึ้น และมีความเสี่ยงที่องค์ประกอบความร้อนจะเสียหายก่อนกำหนด เครื่องชงกาแฟจะมีปัญหาการไหลของน้ำที่ไม่สม่ำเสมอ อุณหภูมิที่ไม่คงที่ และรสชาติกาแฟที่เปลี่ยนไป

แม้ตะกรันจะไม่อันตรายต่อสุขภาพโดยตรง แต่การสะสมของตะกรันอาจส่งผลให้แบคทีเรียเติบโตในเครื่องใช้ไฟฟ้าที่อาศัยน้ำเป็นองค์ประกอบได้ หากเราไม่บำรุงรักษาอย่างเหมาะสม จะส่งผลต่อคุณภาพของอาหารและน้ำดื่มที่เราบริโภคทุกวัน

4.2 ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น

ค่าไฟฟ้าจากการที่เครื่องใช้ไฟฟ้าต้องทำงานหนักขึ้นและนานขึ้น โดยเฉพาะเครื่องทำน้ำอุ่นซึ่งเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟมากอยู่แล้ว การมีตะกรันสะสมจะทำให้ค่าไฟเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ค่าซ่อมแซมและเปลี่ยนอุปกรณ์ เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีตะกรันจะเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ ต้องซ่อมแซมบ่อยขึ้น หรืออาจต้องเปลี่ยนใหม่ก่อนสิ้นอายุการใช้งาน

ค่าผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ต้องซื้อผลิตภัณฑ์ขจัดตะกรันเป็นประจำ ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดทั่วไปต้องใช้มากขึ้น

4.3 ความสวยงามและสุขอนามัย

ตะกรันเป็นคราบปูนขาวที่ดูไม่สะอาดตามจุดต่างๆ ทำให้สภาพแวดล้อมรอบตัวดูไม่สุขอนามัย เวลาเห็นคราบตะกรันในห้องน้ำ เครื่องชงกาแฟ หรือภาชนะต่างๆ จะรู้สึกไม่ดี

การทำความสะอาดที่ยุ่งยาก คราบตะกรันที่ฝังแน่นจะทำความสะอาดได้ยาก ต้องใช้เวลาขัดถูมาก ซื้อผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพิเศษที่หาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้า เช่น Homepro และอาจต้องจ้างช่างซ่อม

4.4 ปัญหาการซักผ้าและล้างจาน

ตะกรันในเครื่องซักผ้าจะทำให้ผงซักฟอกทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ เสื้อผ้าซักไม่สะอาด และมีความหยาบขึ้น เสื้อผ้าอาจไม่สะอาด มีสีซีดจาง หรือมีความหยาบขึ้น

การล้างจานจะมีคราบขาวค้าง และต้องใช้น้ำยาล้างจานมากขึ้น จานชามอาจมีคราบขาวติดค้าง และดูไม่สะอาด

5. เราจะป้องกันคราบตะกรันได้อย่างไร?

การป้องกันตะกรันเป็นวิธีที่ดีที่สุดและประหยัดกว่าการรอให้เกิดแล้วค่อยแก้ไข มีหลายวิธีที่สามารถลดการเกิดตะกรันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

5.1 การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน

ตรวจสอบและทำความสะอาดบริเวณที่มีน้ำเป็นประจำ เช็ดทำความสะอาดหลังใช้งาน ใช้น้ำส้มสายชูทำความสะอาดพื้นผิวที่เสี่ยงต่อการเกิดตะกรันเป็นประจำ และเช็ดน้ำที่ค้างบนพื้นผิวต่างๆ หลังใช้งาน

การใช้ผ้าแห้งเช็ดน้ำที่ค้างบนพื้นผิวต่างๆ หลังใช้งานเป็นวิธีง่ายๆ ที่ช่วยป้องกันการเกิดตะกรันได้เป็นอย่างดี เพราะเมื่อไม่มีน้ำค้างแล้ว แร่ธาตุก็ไม่สามารถตกตะกอนเป็นตะกรันได้

5.2 ติดตั้งระบบกรองน้ำคุณภาพสูง

แนะนำให้ติดเครื่องกรองน้ำ 5 ขั้นตอน ระบบ UF หรือ RO ไส้กรองที่ช่วยเรื่องตะกรันโดยตรงคือ ไส้กรองเรซิ่น มีหน้าที่ลดความกระด้างของน้ำ ด้วยการกำจัดไอออนแคลเซียมและแมกนีเซียมที่เป็นสาเหตุหลักของตะกรัน

  • ระบบ RO (Reverse Osmosis) : เป็นระบบที่กรองได้ละเอียดที่สุด สามารถกำจัดแร่ธาตุได้เกือบ 100% เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีน้ำกระด้างมาก และให้น้ำดื่มคุณภาพสูง
  • ระบบ UF (Ultrafiltration) : จะกรองเชื้อโรค แบคทีเรีย ไวรัส และคงแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ไว้บางส่วน ราคาไม่แพงมาก และประหยัดน้ำ

5.3 ติดตั้งระบบถังกรองน้ำไฟเบอร์

เราสามารถติดตั้งระบบถังกรองน้ำไฟเบอร์ตามครัวเรือน ออฟฟิศสำนักงาน เพื่อกรองน้ำใช้อุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวันได้ โดยในถังกรองน้ำ มักนิยมบรรจุสารกรองชนิดต่างๆ

สารกรองที่สำคัญ ได้แก่ :

  • สารกรองคาร์บอน : กำจัดกลิ่น รส คลอรีน
  • สารกรองเรซิ่น : กำจัดแคลเซียมและแมกนีเซียม (ป้องกันตะกรัน)
  • สารกรองแมงกานีส : กำจัดเหล็กและแมงกานีส
  • สารกรองแอนทราไซต์ : กรองตะกอนละเอียด

ข้อดีของระบบถังกรองน้ำไฟเบอร์คือราคาไม่แพง ติดตั้งง่าย ใช้ได้ยาวนาน แต่ต้องบำรุงรักษาอย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอ โดยต้องล้างย้อนสารกรองทุก 1-2 สัปดาห์ เปลี่ยนสารกรองตามอายุการใช้งาน ตรวจสอบระบบท่อและวาล์วเป็นประจำ

อ่านต่อ : สารกรองเรซิ่น คืออะไร? มีคุณสมบัติอะไร อายุการใช้งานเท่าไหร่?

5.4 การควบคุมอุณหภูมิ

ตะกรันจะก่อตัวเร็วขึ้นเมื่อมีอุณหภูมิสูงขึ้น หากเราสามารถรักษาอุณหภูมิของน้ำให้ต่ำลง จะช่วยลดอัตราการเกิดตะกรันได้ การลดอุณหภูมิเครื่องทำน้ำอุ่นให้อยู่ในช่วง 55-60 องศาเซลเซียส การใช้เทอร์โมสตัทควบคุมอุณหภูมิ และการติดตั้งระบบกรองก่อนเข้าเครื่องทำน้ำอุ่น เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ การหลีกเลี่ยงการใช้น้ำร้อนจัดเกินความจำเป็น การปิดเครื่องทำน้ำอุ่นเมื่อไม่ใช้งานเป็นเวลานาน และการใช้โปรแกรมซักน้ำเย็นหรือน้ำอุ่นแทนน้ำร้อนก็ช่วยลดการเกิดตะกรันได้

6. วิธีล้างและกำจัดคราบตะกรัน

เมื่อมีตะกรันเกิดขึ้นแล้ว การเลือกวิธีกำจัดที่เหมาะสมจะช่วยให้กำจัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ทำลายพื้นผิวหรืออุปกรณ์

6.1 ล้างตะกรันด้วยน้ำส้มสายชู

น้ำส้มสายชูมีกรดอะซิติกที่สามารถละลายแคลเซียมคาร์บอเนตได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นวิธีที่ปลอดภัย ราคาถูก และหาซื้อได้ง่าย

  • กาต้มน้ำและเครื่องชงกาแฟ : ผสมน้ำส้มสายชูกับน้ำ อัตราส่วน 1:1 เติมลงในเครื่อง ปล่อยทิ้งไว้ 2 ชั่วโมง หากเป็นกาต้มน้ำให้ต้มส่วนผสม แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดหลายครั้งเพื่อกำจัดกลิ่นน้ำส้มสายชู
  • ก๊อกน้ำและหัวฝักบัว : ใส่น้ำส้มสายชูในถุงพลาสติก หุ้มก๊อกน้ำหรือหัวฝักบัว มัดให้แน่น ปล่อยทิ้งไว้ 2-4 ชั่วโมง สามารถทิ้งไว้ข้ามคืนได้ แล้วขัดด้วยแปรงเก่า เปิดน้ำไหลแรงเพื่อล้างเศษตะกรัน
  • กระเบื้องและกระจก : ฉีดน้ำส้มสายชูบนพื้นผิว ปล่อยทิ้งไว้ 10-15 นาที ขัดด้วยฟองน้ำหรือผ้านุ่ม แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด เช็ดให้แห้งด้วยผ้าสะอาด

6.2 ล้างตะกรันด้วยน้ำมะนาว

น้ำมะนาวมีกรดซิตริกที่มีประสิทธิภาพในการละลายตะกรัน และมีกลิ่นหอมสดชื่นกว่าน้ำส้มสายชู ใช้น้ำมะนาวสดหรือน้ำมะนาวบรรจุขวด ทาลงบนคราบตะกรัน สำหรับคราบหนักสามารถใช้ครึ่งลูกมะนาวขัดไปมาโดยตรง ปล่อยทิ้งไว้ 30-60 นาที แล้วขัดด้วยฟองน้ำ ล้างด้วยน้ำสะอาด

6.3 ล้างตะกรันด้วยน้ำส้มสายชูผสมเบกกิ้งโซดา

เหมาะสำหรับคราบตะกรันที่ฝังแน่นและกำจัดออกยาก เบกกิ้งโซดาเป็นด่างอ่อนช่วยขัดถู ส่วนน้ำส้มสายชูเป็นกรดละลายตะกรัน เมื่อรวมกันจะเกิดปฏิกิริยาฟองช่วยขัดคราบออก

วิธีใช้ : โรยเบกกิ้งโซดาบนพื้นผิวที่มีตะกรัน ฉีดน้ำส้มสายชูทับ จะเกิดฟอง ปล่อยทิ้งไว้ 15-30 นาที ใช้แปรงขัดเป็นวงกลม แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้า ให้ผสมเบกกิ้งโซดากับน้ำส้มสายชูเล็กน้อย ทาบริเวณที่มีตะกรันหนัก เช่น รอบองค์ประกอบความร้อน ปล่อยทิ้งไว้ 20-30 นาที ใช้แปรงเก่าขัดเบาๆ แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดหลายครั้ง

6.4 ใช้น้ำยาขจัดตะกรันเฉพาะทาง

สำหรับคราบตะกรันหนักหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ ใช้น้ำยาขจัดตะกรันที่หาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้า ตามคำแนะนำผู้ผลิต แล้วล้างด้วยน้ำสะอาดหลายครั้ง

ประเภทของน้ำยาขจัดตะกรัน ได้แก่ กรดไฮโดรคลอริกที่มีประสิทธิภาพสูง แต่ต้องระมัดระวัง กรดซิตริกจะมีความปลอดภัยกว่า เหมาะสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้า และน้ำยาเฉพาะสำหรับเครื่องซักผ้าและเครื่องล้างจาน

การใช้งานที่ปลอดภัยต้องสวมถุงมือยาง แว่นตาป้องกัน ใช้ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทดี อ่านคำแนะนำและข้อควรระวังก่อนใช้ ห้ามผสมน้ำยาหลายชนิดเข้าด้วยกัน และล้างด้วยน้ำสะอาดให้ทั่วเพื่อกำจัดสารคงเหลือ

เครื่องซักผ้า เครื่องล้างจาน ใส่น้ำยากำจัดตะกรันลงไปแล้วเปิดเครื่องซักเปล่า ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้า เปิดใช้งานเต็มรอบด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าน้ำยากำจัดตะกรันทั้งหมดถูกล้างออกไปหมดแล้ว

มะนาวกำจัดตะกรัน

7. ตะกรันกับตะกอน แตกต่างกันอย่างไร?

ตะกรัน (Scale/Limestone)

ตะกรันประกอบด้วยแร่ธาตุแข็งเป็นหลัก โดยเฉพาะแคลเซียมคาร์บอเนต (CaCO₃) และแมกนีเซียมคาร์บอเนต (MgCO₃) เกิดจากการตกตะกอนของแร่ธาตุจากน้ำกระด้างเมื่อมีความร้อนหรือการระเหยของน้ำ

ลักษณะของตะกรันเป็นสีขาวหรือขาวเทา แข็งและติดแน่นกับพื้นผิว มีผิวหยาบคล้ายปูน การกำจัดต้องใช้กรด เช่น น้ำส้มสายชู น้ำมะนาว หรือน้ำยาเฉพาะทาง ผลกระทบคือทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าใช้พลังงานมากขึ้น อุดตันท่อ ลดแรงดันน้ำ

ตะกอน (Sediment)

ตะกอนเป็นอนุภาคของแข็ง เช่น ทราย สนิม สิ่งสกปรก เศษซากต่างๆ ที่แขวนลอยอยู่ในน้ำ มาจากการกัดกร่อนของดิน สนิมจากท่อเก่า เศษใบไม้ และวัสดุอินทรีย์ต่างๆ

การก่อตัวของตะกอนจะตกตะกอนที่ก้นภาชนะเมื่อน้ำนิ่งหรือไหลช้า ไม่เกี่ยวกับแร่ธาตุและความกระด้างของน้ำ ลักษณะเป็นเม็ดๆ สีน้ำตาล เหลือง หรือดำ อ่อนและหลุดง่าย การกำจัดใช้น้ำล้างแรงๆ หรือตัวกรองดักตะกอน

📝 สรุปความแตกต่าง

  • สาเหตุ : ตะกรันเกิดจากน้ำกระด้างผสมความร้อน ตะกอนเกิดจากการกัดกร่อนและสนิม
  • สี : ตะกรันสีขาวเทา ตะกอนสีน้ำตาล เหลือง ดำ
  • ความแข็ง : ตะกรันแข็งติดแน่น ตะกอนอ่อนหลุดง่าย
  • การกำจัด : ตะกรันใช้กรด ตะกอนใช้น้ำล้าง
  • การป้องกัน : ตะกรันต้องกรองน้ำกระด้าง ตะกอนต้องกรองตะกอน

8. คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

ตะกรันไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพโดยตรง เนื่องจากประกอบด้วยแคลเซียมและแมกนีเซียมซึ่งเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย

อย่างไรก็ตาม การดื่มน้ำที่มีแร่ธาตุเหล่านี้ในปริมาณสูงเป็นประจำอาจเพิ่มความเสี่ยงการเกิดนิ่วในไต โดยเฉพาะในผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นนิ่วในไต

นอกจากนี้ ตะกรันยังส่งผลเสียต่อเครื่องใช้ไฟฟ้า ทำให้ใช้พลังงานมากขึ้น อายุการใช้งานสั้นลง และอาจเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคหากไม่ทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ

คราบตะกรันในกาต้มน้ำไฟฟ้าสามารถเช็ดกำจัดได้หลายวิธี

  • วิธีที่ 1 คือการใช้น้ำส้มสายชู โดยผสมน้ำส้มสายชูกับน้ำ อัตราส่วน 1:1 เติมลงในกา ต้มให้เดือด แล้วปล่อยทิ้งไว้ 2 ชั่วโมง เทออก แล้วขัดด้วยฟองน้ำ ล้างด้วยน้ำสะอาด
  • วิธีที่ 2 คือการใช้น้ำมะนาว โดยคั้นน้ำมะนาวสด 3-4 ลูก ผสมกับน้ำ ต้มให้เดือด ปล่อยทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง ขัดเบาๆ ด้วยแปรงนุ่ม
  • วิธีที่ 3 คือการใช้เบกกิ้งโซดาผสมน้ำส้มสายชู โรยเบกกิ้งโซดาบนคราบตะกรัน เทน้ำส้มสายชูทับ จะเกิดฟอง ปล่อย 30 นาที แล้วขัดและล้างออก

การแก้ไขปัญหาตะกรันในน้ำมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับความรุนแรงและงบประมาณ

  1. การติดตั้งเครื่องกรองน้ำ
    • ระบบ RO จะกรองได้ละเอียดที่สุด กำจัดแร่ธาตุได้เกือบ 100%
    • ระบบ UF ร่วมกับเรซิ่นจะกรองเชื้อโรคและลดความกระด้าง
    • เครื่องกรอง 5 ขั้นตอนจะครอบคลุมการกรองหลายประเภท
  2. การติดตั้งระบบถังกรองน้ำไฟเบอร์ ใช้สารกรองเรซิ่นกำจัดไอออนแคลเซียมและแมกนีเซียม เหมาะสำหรับบ้านหรือออฟฟิศขนาดกลาง ราคาไม่แพง บำรุงรักษาง่าย

การละลายตะกรันต้องใช้สารที่มีฤทธิ์เป็นกรด เพราะตะกรันประกอบด้วยแคลเซียมและแมกนีเซียมคาร์บอเนตซึ่งละลายได้ในกรด

  • กรดธรรมชาติที่ใช้ได้ ได้แก่ น้ำส้มสายชู (กรดอะซิติก) ที่ปลอดภัย ใช้ได้ทุกวัน น้ำมะนาว (กรดซิตริก) ที่มีกลิ่นหอม ประสิทธิภาพดี
  • กรดเคมีที่มีประสิทธิภาพสูง ได้แก่ กรดไฮโดรคลอริกที่มีประสิทธิภาพสูงสุด แต่อันตราย กรดซิตริกผงที่ปลอดภัยกว่ากรดเคมีอื่น
  • วิธีเสริมประสิทธิภาพคือการใช้ความร้อนร่วมด้วย น้ำอุ่น เพิ่มเวลาการแช่ให้นานขึ้น และขัดถูเพื่อช่วยให้กรดเข้าถึงตะกรัน

น้ำส้มสายชูสามารถล้างคราบตะกรันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากมีกรดอะซิติก (Acetic Acid) ประมาณ 4-8% ซึ่งสามารถละลายแคลเซียมคาร์บอเนตและแมกนีเซียมคาร์บอเนตได้

ข้อดีของการใช้น้ำส้มสายชูคือ ปลอดภัย ไม่เป็นพิษ หาซื้อได้ง่าย ราคาถูก ใช้ได้กับอุปกรณ์ทุกประเภท และไม่ทำลายพื้นผิว

วิธีใช้ให้มีประสิทธิภาพคือ ใช้น้ำส้มสายชูเข้มข้น 5% ขึ้นไป แช่หรือทิ้งไว้นาน 2-4 ชั่วโมง ใช้ร่วมกับการขัดถู และล้างออกด้วยน้ำสะอาดทันทีหลังใช้

ข้อจำกัดคือ กลิ่นแรงอาจไม่พึงประสงค์ ไม่เหมาะกับคราบตะกรันที่หนามาก และต้องใช้หลายครั้งสำหรับคราบเก่า

เศษตะกรัน หมายถึง ชิ้นเล็กชิ้นน้อยของตะกรันที่หลุดออกมาจากพื้นผิวต่างๆ โดยเฉพาะหลังจากการทำความสะอาดหรือเมื่อตะกรันสะสมมากจนแตกหลุด

ลักษณะของเศษตะกรันคือ เป็นเกล็ดสีขาวหรือเทา มีขนาดเล็กถึงขนาดใหญ่ แข็งและเปราะ แตกง่าย อาจลอยในน้ำหรือตกก้น สาเหตุการเกิดมาจาก การขัดถูที่แรงเกินไป การใช้สารเคมีที่เข้มข้น ตะกรันเก่าที่สะสมนานแตกหลุดเอง และการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิกะทันหัน

ผลกระทบของเศษตะกรันคือ อุดตันท่อหรือตัวกรองน้ำ ทำให้น้ำขุ่น มีเศษลอย และส่งผลต่อรสชาติน้ำดื่ม

การป้องกันทำได้โดย ทำความสะอาดอย่างนุ่มนวล ไม่ใช้แรงมาก เปิดน้ำไหลแรงหลังทำความสะอาดเพื่อชะล้างเศษตะกรัน และติดตั้งตัวกรองดักเศษหลังระบบท่อ

สรุป

ตะกรันเป็นปัญหาที่พบได้ทั่วไปในครัวเรือนไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีน้ำกระด้าง แม้ว่าตะกรันจะไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพโดยตรง แต่การสะสมของตะกรันส่งผลเสียหลายประการ ทั้งในด้านประสิทธิภาพของเครื่องใช้ไฟฟ้า ความสวยงาม และค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น

การป้องกันที่มีประสิทธิภาพประกอบด้วยการติดตั้งระบบกรองน้ำที่เหมาะสม การบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ และการควบคุมปัจจัยที่ส่งเสริมการเกิดตะกรัน เช่น อุณหภูมิและความชื้น เมื่อเกิดตะกรันแล้ว สามารถเลือกใช้วิธีกำจัดที่เหมาะสม ตั้งแต่วิธีธรรมชาติด้วยน้ำส้มสายชูและน้ำมะนาว ไปจนถึงการใช้น้ำยาเฉพาะทางสำหรับคราบที่ฝังแน่น โดยต้องคำนึงถึงความปลอดภัยและคำแนะนำผู้ผลิต

การลงทุนในการป้องกันตะกรันจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว ทั้งค่าไฟฟ้า ค่าซ่อมแซม และค่าเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่ นอกจากนี้ยังช่วยให้บ้านดูสะอาด สุขอนามัย และเครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

การดูแลรักษาระบบน้ำในบ้านอย่างถูกต้องจะช่วยให้คุณและครอบครัวมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าได้อย่างคุ้มค่า และสร้างสภาพแวดล้อมที่สะอาด สุขอนามัยในบ้าน

ล้างตู้กดน้ำเย็นกับเรา

สยามคูลเลอร์ มาร์ท แอนด์ เซอร์วิส รับบริการล้างตู้ทำน้ำเย็น ถังคว่ำ, ถังล่าง, กรองในตัว, ต่อตรงท่อประปา พร้อมตรวจเช็คอะไหล่ตู้น้ำดื่มด้านใน มีผลงานจริงให้รับชมทั้งรูปภาพและวิดีโอ คลิกปุ่มด้านล่างเพื่ออ่านรายละเอียด

เงื่อนไขการให้บริการ

  1. ราคาขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการให้บริการ เช่น ราคาส่งอย่างเดียว ราคาส่งพร้อมติดตั้ง สามารถสอบถามและขอใบเสนอราคาได้ตามช่องทางติดต่อด้านล่าง
  2. ส่งสินค้าฟรีเฉพาะเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล
  3. หากลูกค้าอยู่ต่างจังหวัด มี 2 กรณี

    3.1 ส่งอย่างเดียวโดยการใช้บริการขนส่ง ค่าขนส่งขึ้นอยู่กับระยะทางและน้ำหนักสินค้า จ่ายต้นทางหรือปลายทางขึ้นอยู่กับการตกลง
    3.2 ทางเราดำเนินการส่งเองพร้อมติดตั้งให้ โดยจะมีการคิดค่าน้ำมันตามระยะทางไป-กลับ

หมายเหตุ : ทางเราไม่ได้มีบริการติดตั้งทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย เช่น ภาคเหนือ ภาคใต้ ทางเราไม่มีบริการติดตั้ง ขึ้นอยู่กับระยะทางและปริมาณการซื้อขาย สามารถทักมาสอบถามพูดคุยเบื้องต้นก่อนได้ตามช่องทางการติดต่อด้านล่าง

  • การติดตั้งไม่รวมถึงการเดินท่อประปา, ท่อน้ำทิ้ง, ปลั๊กไฟ และสายไฟ สิ่งเหล่านี้เป็นความรับผิดชอบของลูกค้า
  • ติดตั้งฟรีหน้างานในระยะไม่เกิน 5 เมตร จากจุดเชื่อมน้ำประปา ก๊อกน้ำ หรือวาล์วน้ำ เป็นสายอ่อน 2 หุน
  • ไม่รับประกันอุปกรณ์ที่เสื่อมสภาพตามการใช้งาน เช่น ก๊อกน้ำ แกนก๊อก ไส้กรองน้ำ
  • มีตู้สำรองให้ใช้ระหว่างการซ่อมตลอดอายุการใช้งาน หากต้องยกตู้เข้าโรงงานเพื่อตรวจเช็ค
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อสินค้า ขอใบเสนอราคา
Line คลิกที่นี่เพื่อ Chat ทันที
E-mail siamcooler2025@gmail.com
Facebook @siamcooler
Youtube @siamcooler
ออฟฟิศ 02-539-2630 02-539-2607
  02-538-6343  
มือถือ 092-364-4629 (ฝ่ายขาย) 087-935-1415 (ฝ่ายซ่อมบำรุง)
แฟกซ์ 02-931-1381  

Siamcooler Mart and Service ยินดีให้คำปรึกษาและให้บริการอย่างเต็มความสามารถเพื่อช่วยลูกค้าแก้ปัญหา เปรียบเสมือนแผนกหนึ่งในองค์กรที่ช่วยดูแลเรื่องตู้กดน้ำ ไส้กรองน้ำ เครื่องกรองน้ำ อะไหล่ และบริการบำรุงรักษา เช่น การล้างทำความสะอาด การซ่อมบำรุง การทำสัญญาบริการรายปี

ประสบการณ์กว่า 20 ปี มีฐานลูกค้ามากกว่า 6,000 ราย ได้รับความไว้วางใจจากภาครัฐ เอกชน โรงเรียน ครัวเรือน และขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง จากการบอกต่อของลูกค้าที่ประทับใจในการใช้บริการกับเรา สามารถชื่นชมผลงานที่ผ่านมาของเราได้ที่นี่

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *