มลพิษทางน้ำ คือ น้ำเสียที่มีสารอันตรายปนเปื้อน มักเป็นสารเคมี จุลินทรีย์ ปนเปื้อนในลำธาร แม่น้ำ ทะเลสาบ มหาสมุทร ชั้นหินอุ้มน้ำ หรือแหล่งน้ำอื่น ๆ ทำให้คุณภาพน้ำเสื่อมโทรม และทำให้เกิดพิษต่อมนุษย์หรือสิ่งแวดล้อม มีการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบ จนไม่สามารถใช้ดื่มบริโภค หรือใช้ในวัตถุประสงค์ต่างๆได้ เช่น เกษตรกรรม
องค์การอนามัยโลก (WHO) ให้คำนิยามว่า น้ำเป็นมลพิษเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบจนไม่สามารถใช้ดื่มบริโภคหรือใช้ในวัตถุประสงค์ต่างๆ ได้ เช่น การเกษตรกรรม
ปัญหามลพิษทางน้ำทำให้เกิดโรคต่างๆ และเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น โรคท้องร่วง อหิวาตกโรค โรคบิด ไทฟอยด์ และโปลิโอ ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนมากกว่า 500,000 คนทั่วโลกทุกปี มากกว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากสงครามและความรุนแรงรูปแบบอื่นๆ ทั้งหมดรวมกัน
ความท้าทายด้านแหล่งน้ำจืด
แหล่งน้ำดื่มของเรามีจำกัด เพราะมีน้ำจืดไม่ถึง 1% ของแหล่งน้ำทั้งหมดบนโลก หากไม่มีวิธีแก้ไข ป้องกัน และจัดการ จะเกิดความยากลำบากเรื่องแหล่งน้ำมากขึ้นภายในปี 2593 เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่าความต้องการน้ำจืดทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นถึง 1 ใน 3 จากปัจจุบัน
สารปนเปื้อนหลักในน้ำ
- แบคทีเรีย ไวรัส และปรสิต
- ปุ๋ยและยาฆ่าแมลง
- ผลิตภัณฑ์ยาและสารเคมี
- ไนเตรตและฟอสเฟต
- พลาสติกและของเสียจากอุจจาระ
- สารกัมมันตภาพรังสี
สิ่งสำคัญคือ สารเหล่านี้ไม่ได้เปลี่ยนสีของน้ำเสมอไป หมายความว่าเรากำลังต่อสู้กับมลพิษที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า จึงจำเป็นต้องมีการทดสอบน้ำด้วยเครื่องมือต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่าน้ำไม่มีสารอันตรายเกินมาตรฐาน
2.1 เกษตรกรรมและการเลี้ยงปศุสัตว์
การผลิตภาคเกษตรกรรมและปศุสัตว์ใช้น้ำผิวดินประมาณ 70% และก่อให้เกิดมลพิษทางน้ำอย่างร้ายแรงทั่วโลก เป็นสาเหตุหลักของการเสื่อมโทรมคุณภาพน้ำ
ประเทศสหรัฐอเมริกาจัดให้มลพิษจากการเกษตรเป็นสาเหตุอันดับต้นของการปนเปื้อนในแม่น้ำและลำธาร นอกจากนี้ยังเป็นสาเหตุสำคัญของการปนเปื้อนสู่ปากแม่น้ำและน้ำใต้ดิน
ทุกครั้งที่ฝนตก ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง ของเสียจากสัตว์ที่มาจากฟาร์ม และการเลี้ยงปศุสัตว์จะถูกชะล้างลงไปในน้ำ พร้อมกับสารอาหารและเชื้อโรค เช่น แบคทีเรียและไวรัส
มลภาวะทางสารอาหารที่เกิดจากไนโตรเจนและฟอสฟอรัสส่วนเกินในน้ำหรือในอากาศ ถือเป็นภัยคุกคามอันดับ 1 ต่อคุณภาพน้ำทั่วโลก
2.2 น้ำเสียจากชุมชนและอุตสาหกรรม
น้ำเสียมักเกิดจากกิจกรรมในครัวเรือน เช่น อ่างล้างหน้า สุขา น้ำจากฝักบัว รวมถึงกิจกรรมเชิงพาณิชย์ เช่น อุตสาหกรรมและการเกษตร ซึ่งประกอบด้วยโลหะ ตัวทำละลาย และตะกอนพิษต่างๆ
สถิติที่น่าตกใจคือ น้ำเสียในโลกมากกว่า 80% ไหลกลับสู่สิ่งแวดล้อมโดยไม่ได้รับการบำบัดหรือนำกลับมาใช้ใหม่
จากข้อมูลขององค์การสหประชาชาติ (UN) ในประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุดบางประเทศ ตัวเลขดังกล่าวสูงถึง 95%
ในสหรัฐอเมริกา โรงบำบัดน้ำเสียมีการบำบัดน้ำเสียประมาณ 34 พันล้านแกลลอนต่อวัน ช่วยลดปริมาณมลพิษ เช่น เชื้อโรค ฟอสฟอรัส ไนโตรเจน โลหะหนัก และสารเคมีพิษจากของเสียอุตสาหกรรม
แต่การประมาณการของ EPA ระบบบำบัดน้ำเสียที่เก่าแก่ยังปล่อยน้ำเสียที่ไม่ผ่านการบำบัดมากกว่า 850 พันล้านแกลลอนในแต่ละปี ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงมาก
2.3 มลพิษจากน้ำมัน
มลพิษจากน้ำมันในทะเลเกิดจากน้ำมันและเบนซินที่หยดจากรถยนต์และรถบรรทุกหลายล้านคันทุกวัน
เกือบครึ่งหนึ่งของน้ำมันประมาณ 1 ล้านตันที่ไหลลงสู่ทะเลในแต่ละปี ไม่ได้มาจากการรั่วไหลของเรือบรรทุกน้ำมัน แต่มาจากบนบก เช่น โรงงาน ฟาร์ม และเมือง
น้ำมันที่รั่วจากเรือบรรทุกน้ำมันคิดเป็นเพียง 10% ของน้ำมันในน่านน้ำทั่วโลก อุตสาหกรรมการขนส่งทั้งถูกกฎหมายและผิดกฎหมายมีส่วนประมาณ 1 ใน 3 นอกจากนี้น้ำมันยังถูกปล่อยออกมาตามธรรมชาติจากใต้พื้นมหาสมุทรผ่านทางรอยแตกที่เรียกว่าน้ำซึม
2.4 สารกัมมันตภาพรังสี
สารกัมมันตภาพรังสีถูกสร้างขึ้นจากการขุดยูเรเนียม โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ การผลิตและทดสอบอาวุธทหาร รวมถึงมหาวิทยาลัยและโรงพยาบาลที่ใช้วัสดุกัมมันตภาพรังสีเพื่อการวิจัยและการแพทย์ สารเหล่านี้สามารถอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานหลายพันปี และยากในการกำจัด
สถานที่ผลิตอาวุธนิวเคลียร์ Hanford ต้องทำความสะอาดกากกัมมันตภาพรังสี 56 ล้านแกลลอน คาดว่าจะมีค่าใช้จ่ายมากกว่า 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐ และดำเนินการจนถึงปี 2060
หากมีการกำจัดสารปนเปื้อนอย่างไม่เหมาะสม จะเป็นภัยคุกคามต่อน้ำใต้ดิน น้ำผิวดิน และทรัพยากรทางทะเล
2.5 กิจกรรมทางอุตสาหกรรม
อุตสาหกรรมเป็นแหล่งกำเนิดมลพิษทางน้ำที่สำคัญ การใช้สารเคมีอันตรายในกระบวนการผลิตก่อให้เกิดของเสียอันตราย เมื่อไม่มีการกำจัดอย่างเหมาะสมหรือเกิดอุบัติเหตุ สารเหล่านี้จะลงสู่แหล่งน้ำ
แม้จะมีปริมาณไม่มากหรือแค่หยดเดียว อาจทำให้ระบบนิเวศทางน้ำสัมผัสกับโลหะหนัก สารเคมีพิษ และการรั่วไหลของน้ำมัน ซึ่งจะทำลายแหล่งที่อยู่อาศัยและสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ
2.6 การไหลบ่าทางการเกษตร
การทำฟาร์มที่ไม่เหมาะสมนำไปสู่มลพิษทางน้ำ เมื่อเกษตรกรใส่ปุ๋ยและยาฆ่าแมลงในทุ่งนา ปริมาณส่วนเกินจะถูกชะล้างออกไปด้วยน้ำฝนและน้ำชลประทาน ไหลลงสู่แม่น้ำ ทะเลสาบ และน้ำใต้ดินใกล้เคียง
การมีสารอาหารระดับสูง เช่น ไนโตรเจนและฟอสฟอรัส อาจทำให้สาหร่ายเติบโตมากเกินไปในแหล่งน้ำ ส่งผลให้ออกซิเจนลดลง ทำให้สิ่งมีชีวิตในน้ำไม่สามารถดำรงอยู่ได้
การตัดไม้ทำลายป่าอาจทำให้แหล่งน้ำหมดไป และสร้างสารอินทรีย์ที่กลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของแบคทีเรียอันตราย
2.7 การกำจัดขยะที่ไม่เหมาะสม
การกำจัดขยะหรือของเสียที่ไม่เหมาะสมเป็นสาเหตุสำคัญของมลพิษทางน้ำ เช่น พลาสติก สารเคมี และยา สิ่งเหล่านี้เป็นภัยคุกคามต่อสิ่งมีชีวิตในทะเล
พลาสติกเป็นอันตรายเพราะสัตว์อาจกินเข้าไปโดยไม่ตั้งใจหรือติดพันรอบลำตัว นำไปสู่การบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
องค์การสหประชาชาติ (UN) กล่าวว่ามากกว่า 80% ของสิ่งปฏิกูลของโลกลงสู่ทะเลและแม่น้ำโดยไม่ได้รับการบำบัด
2.8 ปัญหาโรงบำบัดน้ำเสีย
การบำบัดน้ำเสียไม่เพียงพอส่งผลต่อมลพิษทางน้ำ เมื่อน้ำเสียไม่ได้รับการบำบัดอย่างเหมาะสม สารปนเปื้อน เช่น แบคทีเรีย ไวรัส และสารเคมี จะถูกปล่อยลงน้ำ ปนเปื้อนแหล่งน้ำดื่ม มีความเสี่ยงที่จะกระทบต่อสุขภาพของผู้คนเป็นจำนวนมาก
การปล่อยสารอาหารจากน้ำเสียมากเกินไปอาจทำให้เกิดภาวะยูโทรฟิเคชั่น ซึ่งเป็นกระบวนการที่แหล่งน้ำอุดมไปด้วยสารอาหาร ทำให้เกิดสาหร่ายอันตรายและระดับออกซิเจนลดลง เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ
ภาวะโลกร้อนก็เป็นหนึ่งในสาเหตุของมลพิษทางน้ำ เพราะอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นจากการปล่อย CO2 ทำให้น้ำร้อนขึ้นและปริมาณออกซิเจนในน้ำลดลง
3.1 การปนเปื้อนในแหล่งน้ำดื่ม
ข้อกังวลหลักคือการปนเปื้อนในแหล่งน้ำดื่ม แหล่งน้ำมักปนเปื้อนด้วยมลพิษ เช่น แบคทีเรีย ไวรัส และสารเคมี สารอันตรายเหล่านี้ทำให้น้ำไม่ปลอดภัยต่อการบริโภคของมนุษย์
การปนเปื้อนเกิดขึ้นได้จากหลายช่องทาง เช่น การปล่อยของเสียทางอุตสาหกรรม การไหลบ่าทางการเกษตร และการกำจัดของเสียที่ไม่เหมาะสม
3.2 ผลกระทบต่อสุขภาพมนุษย์
มลพิษทางน้ำมีผลกระทบอย่างมากต่อสุขภาพมนุษย์ เนื่องจากแหล่งน้ำที่ปนเปื้อนมีสารเคมี แบคทีเรีย และเชื้อโรคอันตราย อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงร้ายแรงต่อผู้ที่ใช้น้ำหรือสัมผัสกับน้ำที่ปนเปื้อน
การสัมผัสกับน้ำปนเปื้อนทำให้เกิดปัญหาสุขภาพหลายอย่าง เช่น
- ปัญหาระบบทางเดินอาหาร
- ปัญหาระบบทางเดินหายใจ
- การติดเชื้อที่ผิวหนัง
- โรคที่อันตรายถึงชีวิต
3.3 เชื้อโรคและการติดเชื้อทางน้ำ
ในพื้นที่ที่มีสุขอนามัยไม่เพียงพอและการเข้าถึงน้ำสะอาดจำกัด เชื้อโรค แบคทีเรีย ไวรัส และปรสิตเจริญเติบโตในน้ำที่ปนเปื้อน เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ เช่น
- อหิวาตกโรค
- โรคบิด
- ไทฟอยด์
- ตับอักเสบ
โรคเหล่านี้อาจมีอาการปวดทรมานที่ทางเดินอาหารอย่างรุนแรง เกิดภาวะขาดน้ำ จนถึงขั้นเสียชีวิต
ปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยที่สุดจากมลพิษทางน้ำคือปัญหาระบบทางเดินอาหาร เพราะน้ำที่ปนเปื้อนมักมีแบคทีเรียอันตราย เช่น อี.โคไล และซัลโมเนลลา ทำให้เกิดอาการท้องร่วง อาเจียน และปวดท้องอย่างรุนแรง โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและผู้สูงอายุ อาจเจอโรคแทรกซ้อนอื่นเพิ่ม
ปัญหาระบบทางเดินหายใจ สามารถเกิดขึ้นได้จากมลพิษทางน้ำ เพราะสารเคมีสามารถระเหยสู่อากาศได้ เช่น โลหะหนักและยาฆ่าแมลง เมื่อสูดดมเข้าไปจะเกิดการระคายเคืองต่อทางเดินหายใจจนพัฒนาเป็นโรคต่างๆ เช่น โรคหอบหืด ดังนั้นใครที่อาศัยอยู่ใกล้เขตอุตสาหกรรม หรือในชุมชนที่มีน้ำเสียต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
นอกจากนี้เราสามารถติดเชื้อทางผิวหนังจากมลพิษทางน้ำได้ หากเราสัมผัสกับน้ำเสียโดยตรง ขณะว่ายน้ำ หรืออาบน้ำ จะมีความเสี่ยงติดเชื้อที่ผิวหนัง เช่น ผิวหนังอักเสบ ผื่นขึ้น ทำให้ไม่สบายตัว
3.5 การทำลายระบบนิเวศ
มลพิษทางน้ำรบกวนแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์หลายชนิด ทำให้ระบบนิเวศเสียสมดุล สารเคมีและสารพิษทำให้สิ่งมีชีวิตในน้ำเอาตัวรอดได้ยาก พืชน้ำถูกทำลาย และพืชที่อาศัยน้ำสะอาดไม่สามารถเจริญเติบโตได้ในสภาพแวดล้อมที่มีพิษ
พืชน้ำมีความสำคัญในการกรองมลพิษและสร้างออกซิเจนให้สัตว์อื่นๆ หากไม่มีพืชน้ำ แหล่งน้ำจะสกปรกและขาดอากาศ นำไปสู่ความเสื่อมโทรมทางระบบนิเวศ
มลพิษทางน้ำยังส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตในทะเล เช่น ปลา เต่า และโลมา สารเคมีพิษในน้ำทำให้ปลาตายเป็นจำนวนมาก เกิดการเสียสมดุลระหว่างผู้ล่าและเหยื่อ กระทบระบบนิเวศทางทะเลในระยะยาว
3.6 ผลกระทบทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวและนันทนาการ
มลพิษทางน้ำมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและนันทนาการ รวมถึงต้นทุนในการบำบัดและฟื้นฟูสภาพน้ำ
นักท่องเที่ยวมักไปชายหาด ทะเล และแม่น้ำเพื่อทำกิจกรรมสันทนาการ เช่น ว่ายน้ำ พายเรือ และตกปลา เมื่อแหล่งน้ำมีมลพิษ จำนวนนักท่องเที่ยวก็ต้องลดลง ทำให้ธุรกิจที่รองรับนักท่องเที่ยว ได้แก่ โรงแรม ร้านอาหาร และคาเฟ่ ขาดลูกค้า กระทบรายได้ บางแห่งอาจต้องปิดตัวลง
นอกจากนี้ยังส่งผลต่อชื่อเสียงของสถานที่ท่องเที่ยว หากทุกคนทราบข่าวว่าแหล่งน้ำที่นั่นมีการปนเปื้อน นักท่องเที่ยวจะไม่อยากกลับมาอีก
3.7 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการเกษตรและการประมง
เมื่อแหล่งน้ำปนเปื้อนด้วยสารพิษ เช่น ยาฆ่าแมลง อาจกระทบต่อผลผลิตทางเกษตร ทำให้เกษตรกรได้รับความเสียหาย เพราะพืชมีคุณภาพต่ำและเจริญเติบโตไม่ได้ เนื่องจากน้ำที่ใช้เพื่อการชลประทานมีการปนเปื้อน
ผลผลิตจึงลดลง ก่อให้เกิดการเพิ่มต้นทุนกับเกษตรกรที่ต้องลงทุนในแหล่งน้ำทางเลือกหรือระบบบำบัด
สำหรับอุตสาหกรรมประมง เมื่อน้ำมีมลพิษ ปลาที่จับได้มีโอกาสปนเปื้อนสูง นอกจากนี้ยังส่งผลต่อจำนวนปลา ยิ่งมีปลาน้อยลง อาหารทะเลก็น้อยลง ชาวประมงที่พึ่งพาการจับปลาเป็นแหล่งรายได้ก็ประสบปัญหา เพราะปริมาณปลาที่ลดลงส่งผลให้สูญเสียงานและรายได้ในการดำรงชีวิต
4.1 เริ่มจากตัวเองก่อน
เราทุกคนต้องร่วมรับผิดชอบต่อปัญหามลพิษทางน้ำในปัจจุบัน แค่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมบางอย่างในชีวิตประจำวัน ก็มีส่วนร่วมในการสร้างสิ่งแวดล้อมที่สะอาดและดีต่อสุขภาพได้แล้ว
การประหยัดน้ำ
ถือเป็นขั้นตอนพื้นฐานในการลดมลพิษทางน้ำ ด้วยการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ หลีกเลี่ยงการสูญเสียน้ำโดยเปล่าประโยชน์
- แก้ไขปัญหาน้ำรั่วในก๊อกน้ำ ท่อ และโถส้วม
- อาบน้ำให้เร็วขึ้น และปิดก๊อกน้ำขณะแปรงฟัน
- รวบรวมน้ำฝนเพื่อการชลประทานกลางแจ้ง
- การใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ประหยัดน้ำ
การกำจัดของเสียอย่างเหมาะสม
การกำจัดของเสียอย่างถูกต้องป้องกันไม่ให้สารปนเปื้อนเข้าสู่แหล่งน้ำ เช่น:
- การรีไซเคิลพลาสติก แก้ว และกระดาษ
- หลีกเลี่ยงการทิ้งสิ่งของที่ไม่สามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพลงโถส้วม
- การกำจัดวัตถุอันตรายให้ถูกที่ถูกทาง
- การหมักขยะอินทรีย์แทนการทิ้งในหลุมฝังกลบ
การปฏิบัติอื่นๆที่สำคัญ
- ลดการใช้พลาสติก นำพลาสติกกลับมาใช้ใหม่ หรือรีไซเคิล
- กำจัดสารเคมี น้ำมัน และสิ่งของที่ไม่สามารถย่อยสลายได้อย่างเหมาะสม เพื่อไม่ให้ไหลลงท่อระบายน้ำ
- บำรุงรักษารถยนต์ให้ดี เพื่อไม่ให้น้ำมัน สารป้องกันการแข็งตัว หรือสารหล่อเย็นรั่วไหล
- จัดสวนเพื่อลดการไหลบ่า และหลีกเลี่ยงการใช้ยาฆ่าแมลงและยากำจัดวัชพืช
- เก็บอุจจาระสัตว์เลี้ยงและทิ้งในที่เหมาะสม
- ใช้เสียงของเราให้เป็นประโยชน์ เช่น ใช้ Social Media พูดคุยถึงประเด็นเรื่องมลพิษทางน้ำในทางสร้างสรรค์
4.2 กฎระเบียบของรัฐบาล
การแก้ไขปัญหาจากระดับบุคคลเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ รัฐบาลควรสนับสนุนในการควบคุมมลพิษทางน้ำด้วยการบังคับใช้กฎระเบียบที่เข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่าอุตสาหกรรม เกษตรกรรม และโรงบำบัดน้ำเสียจะปฏิบัติตามมาตรฐานป้องกันมลพิษ ได้แก่
- กำหนดขีดจำกัดและมาตรฐานมลพิษสำหรับอุตสาหกรรม
- ควบคุมการใช้ปุ๋ยและยาฆ่าแมลงในการเกษตร
- ดำเนินการบำบัดน้ำเสียและระบบติดตาม
- บังคับใช้บทลงโทษหากมีการละเมิดกฎมาตรการควบคุมมลพิษ
4.3 นวัตกรรมและเทคโนโลยี
การแก้ไขปัญหาจากระดับบุคคลเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ รัฐบาลควรสนับสนุนในการควบคุมมลพิษทางน้ำด้วยการบังคับใช้กฎระเบียบที่เข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่าอุตสาหกรรม เกษตรกรรม และโรงบำบัดน้ำเสียจะปฏิบัติตามมาตรฐานป้องกันมลพิษ ได้แก่
- กำหนดขีดจำกัดและมาตรฐานมลพิษสำหรับอุตสาหกรรม
- ควบคุมการใช้ปุ๋ยและยาฆ่าแมลงในการเกษตร
- ดำเนินการบำบัดน้ำเสียและระบบติดตาม
- บังคับใช้บทลงโทษหากมีการละเมิดกฎมาตรการควบคุมมลพิษ
ปัญหามลพิษทางน้ำหลักประกอบด้วย
- การปนเปื้อนของแบคทีเรีย ไวรัส และปรสิตในแหล่งน้ำดื่ม
- มลพิษจากสารเคมีอุตสาหกรรม โลหะหนัก และสารพิษ
- การปนเปื้อนจากปุ๋ยและยาฆ่าแมลงทางการเกษตร
- ขยะพลาสติกและของเสียที่ไม่ย่อยสลาย
- น้ำเสียจากชุมชนที่ไม่ผ่านการบำบัด
- มลพิษจากน้ำมันและสารกัมมันตภาพรังสี
วิธีป้องกันมลพิษทางน้ำ ได้แก่
- ประหยัดน้ำและใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ
- กำจัดของเสียอย่างเหมาะสม โดยการรีไซเคิลและแยกขยะ
- หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีอันตรายในบ้านและสวน
- ไม่ทิ้งขยะหรือสารเคมีลงท่อระบายน้ำ
- บำรุงรักษายานพาหนะให้ดีป้องกันการรั่วไหลของน้ำมัน
- สนับสนุนผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- เข้าร่วมกิจกรรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในชุมชน
แนวทางแก้ไขมลพิษทางน้ำต้องดำเนินการในหลายระดับ
- ระดับบุคคล : เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้น้ำและการกำจัดของเสีย / เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- ระดับชุมชน : พัฒนาระบบบำบัดน้ำเสียที่มีประสิทธิภาพ / จัดตั้งโครงการรีไซเคิลและจัดการขยะ
- ระดับรัฐบาล : ออกกฎหมายควบคุมมลพิษที่เข้มงวด / ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานการจัดการน้ำเสีย / ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีสะอาด
- ระดับอุตสาหกรรม : ปรับปรุงกระบวนการผลิตให้สร้างของเสียน้อยลง / ลงทุนในเทคโนโลยีบำบัดน้ำเสียขั้นสูง
แหล่งกำเนิดมลพิษทางน้ำหลัก ได้แก่ :
1. แหล่งอุตสาหกรรม
- โรงงานอุตสาหกรรมที่ปล่อยสารเคมีและของเสียพิษ
- โรงไฟฟ้าและสถานประกอบการพลังงาน
- โรงงานสิ่งทอและการผลิต
2. แหล่งเกษตรกรรม
- การไหลบ่าของปุ๋ยและยาฆ่าแมลงจากไร่นา
- ฟาร์มปศุสัตว์และของเสียจากสัตว์
- การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำแบบไม่ยั่งยืน
3. แหล่งชุมชน
- น้ำเสียจากครัวเรือนที่ไม่ผ่านการบำบัด
- การกำจัดขยะและสารเคมีที่ไม่เหมาะสม
- รถยนต์และการขนส่งที่รั่วไหลน้ำมัน
4. แหล่งธรรมชาติ
- การชะล้างจากดินและหิน
- การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ
สารพิษที่พบในน้ำปนเปื้อน ประกอบด้วย :
1. สารเคมีอุตสาหกรรม
- โลหะหนัก เช่น ตะกั่ว ปรอท แคดเมียม และสังกะสี
- สารเคมีอินทรีย์ เช่น เบนซิน โทลูอีน และไซลีน
- สารกำจัดศัตรูพืชและยาฆ่าแมลง
2. สารชีวภาพ
- แบคทีเรียอันตราย เช่น อี.โคไล และซัลโมเนลลา
- ไวรัสก่อโรค เช่น ไวรัสตับอักเสบ
- ปรสิตและเชื้อรา
3. สารอาหารส่วนเกิน
- ไนเตรตและไนไตรต์จากปุ๋ย
- ฟอสเฟตจากผงซักฟอกและปุ๋ย
- แอมโมเนียจากของเสียสัตว์
4. สารอื่นๆ
- พลาสติกไมโครและสารเคมีจากพลาสติก
- ยาและผลิตภัณฑ์ส่วนบุคคลที่หลงเหลือ
- สารกัมมันตภาพรังสีจากกิจกรรมนิวเคลียร์
มลพิษทางน้ำเป็นปัญหาวิกฤติระดับโลกที่ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพมนุษย์ ระบบนิเวศ และเศรษฐกิจ โดยเกิดจากการปนเปื้อนของสารเคมี จุลินทรีย์ และสารพิษต่างๆ ในแหล่งน้ำจืด
สาเหตุหลักมาจากกิจกรรมของมนุษย์ เช่น อุตสาหกรรม เกษตรกรรม และการกำจัดขยะที่ไม่เหมาะสม ผลกระทบที่ตามมาได้แก่ โรคภัยไข้เจ็บที่คร่าชีวิตผู้คนกว่า 500,000 คนต่อปี การทำลายระบบนิเวศ และความเสียหายทางเศรษฐกิจ
การแก้ไขปัญหานี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของแต่ละบุคคล การออกกฎหมายควบคุมของรัฐบาล และการพัฒนาเทคโนโลยีบำบัดน้ำเสียที่ทันสมัย
เงื่อนไขการให้บริการ
- ราคาขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการให้บริการ เช่น ราคาส่งอย่างเดียว ราคาส่งพร้อมติดตั้ง สามารถสอบถามและขอใบเสนอราคาได้ตามช่องทางติดต่อด้านล่าง
- ส่งสินค้าฟรีเฉพาะเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล
- หากลูกค้าอยู่ต่างจังหวัด มี 2 กรณี
3.1 ส่งอย่างเดียวโดยการใช้บริการขนส่ง ค่าขนส่งขึ้นอยู่กับระยะทางและน้ำหนักสินค้า จ่ายต้นทางหรือปลายทางขึ้นอยู่กับการตกลง
3.2 ทางเราดำเนินการส่งเองพร้อมติดตั้งให้ โดยจะมีการคิดค่าน้ำมันตามระยะทางไป-กลับ
หมายเหตุ : ทางเราไม่ได้มีบริการติดตั้งทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย เช่น ภาคเหนือ ภาคใต้ ทางเราไม่มีบริการติดตั้ง ขึ้นอยู่กับระยะทางและปริมาณการซื้อขาย สามารถทักมาสอบถามพูดคุยเบื้องต้นก่อนได้ตามช่องทางการติดต่อด้านล่าง
- การติดตั้งไม่รวมถึงการเดินท่อประปา, ท่อน้ำทิ้ง, ปลั๊กไฟ และสายไฟ สิ่งเหล่านี้เป็นความรับผิดชอบของลูกค้า
- ติดตั้งฟรีหน้างานในระยะไม่เกิน 5 เมตร จากจุดเชื่อมน้ำประปา ก๊อกน้ำ หรือวาล์วน้ำ เป็นสายอ่อน 2 หุน
- ไม่รับประกันอุปกรณ์ที่เสื่อมสภาพตามการใช้งาน เช่น ก๊อกน้ำ แกนก๊อก ไส้กรองน้ำ
- มีตู้สำรองให้ใช้ระหว่างการซ่อมตลอดอายุการใช้งาน หากต้องยกตู้เข้าโรงงานเพื่อตรวจเช็ค
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อสินค้า ขอใบเสนอราคา
Line | คลิกที่นี่เพื่อ Chat ทันที | |
siamcooler2025@gmail.com | ||
@siamcooler | ||
Youtube | @siamcooler | |
ออฟฟิศ | 02-539-2630 | 02-539-2607 |
02-538-6343 | ||
มือถือ | 092-364-4629 (ฝ่ายขาย) | 087-935-1415 (ฝ่ายซ่อมบำรุง) |
แฟกซ์ | 02-931-1381 |
Siamcooler Mart and Service ยินดีให้คำปรึกษาและให้บริการอย่างเต็มความสามารถเพื่อช่วยลูกค้าแก้ปัญหา เปรียบเสมือนแผนกหนึ่งในองค์กรที่ช่วยดูแลเรื่องตู้กดน้ำ ไส้กรองน้ำ เครื่องกรองน้ำ อะไหล่ และบริการบำรุงรักษา เช่น การล้างทำความสะอาด การซ่อมบำรุง การทำสัญญาบริการรายปี
ประสบการณ์กว่า 20 ปี มีฐานลูกค้ามากกว่า 6,000 ราย ได้รับความไว้วางใจจากภาครัฐ เอกชน โรงเรียน ครัวเรือน และขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง จากการบอกต่อของลูกค้าที่ประทับใจในการใช้บริการกับเรา สามารถชื่นชมผลงานที่ผ่านมาของเราได้ที่นี่