ในยุคที่สุขอนามัยกลายเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆในชีวิตประจำวัน หลายคนอาจมองข้ามสิ่งง่ายๆอย่างตู้น้ำดื่ม ที่เราใช้งานทุกวันโดยไม่ทันระวัง น้ำดื่มที่ดูใส ไม่ได้แปลว่าสะอาด เพราะเชื้อโรค สิ่งสกปรก หรือสารเคมีอาจซ่อนอยู่โดยที่เราไม่รู้ตัว หากตู้ไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง
บทความนี้ผมจะพาคุณไปเจาะลึกว่า ตู้น้ำดื่มที่สะอาดควรเป็นอย่างไร ทั้งภายนอกและภายใน พร้อมทั้งแนะนำวิธีดูแลบำรุงรักษา และตรวจสอบคุณภาพน้ำดื่มอย่างง่ายๆ เพื่อให้มั่นใจว่าทุกหยดที่กดออกมา ปลอดภัยต่อร่างกาย และไม่เสี่ยงต่อสุขภาพในระยะยาว
พร้อมเคล็ดลับระดับมือโปรที่ช่วยให้คุณดูแลตู้น้ำดื่มอย่างมีระบบ ไม่หลุดรอบ ยืดอายุการใช้งานเครื่องได้จริง! ถ้าคุณใช้ตู้น้ำดื่ม หรือดูแลเครื่องทำน้ำเย็นในองค์กร ต้องไม่พลาดเนื้อหาในบทความนี้ครับ
การดูแลภายนอกของตู้น้ำดื่ม บ่งบอกถึงความใส่ใจของผู้ดูแล และยังสะท้อนว่า น้ำที่กดออกมานั้นสะอาดและปลอดภัยมากแค่ไหน เครื่องที่สะอาดจะช่วยสร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้งาน ทั้งในแง่ความรู้สึกและสุขอนามัยที่ดี เรามาดูกันว่า ตู้น้ำที่ดูแลดี ภายนอกควรเป็นอย่างไร?
🔹 1. ผิวตัวเครื่องสะอาด ไม่มีคราบหรือฝุ่นเกาะ
- ตัวเครื่องควรเงา สะอาด ไม่หม่นหมอง และไม่มีคราบน้ำแห้ง คราบฝุ่นจับ หรือรอยนิ้วมือ
- ไม่มีคราบตะไคร่เขียวที่ฐานเครื่องหรือขอบก๊อก
- สีตัวเครื่องต้องไม่เหลือง ไม่ซีด ไม่ดูหม่น เพราะบ่งบอกว่าทำความสะอาดไม่สม่ำเสมอ
🔹 2. ก๊อกน้ำและปุ่มกดเงาวับ ไม่มีเมือกหรือคราบขาว
- บริเวณก๊อกน้ำต้องแน่น ไม่โยก ไม่หลวม ไม่มีน้ำรั่วขณะกดใช้งาน
- ไม่มีคราบขาวของหินปูน คราบสนิม หรือคราบตะไคร่สีเขียว
- ไม่ควรมี “เมือก” หรือพื้นผิวลื่นๆรอบก๊อก ซึ่งเป็นสัญญาณของเชื้อราและแบคทีเรีย
🔹 3. ถาดรองน้ำแห้งสะอาด ไม่มีน้ำขัง ไม่มีตะไคร่
- ถาดรองน้ำควรแห้งและสะอาดอยู่เสมอ ไม่มีคราบน้ำขังหรือเศษขยะเล็กๆ
- ไม่มีกลิ่นอับ หรือกลิ่นเหม็นจากน้ำที่ค้างในถาดเป็นเวลานาน
- ถาดไม่ควรมีคราบดำ หรือคราบน้ำแห้งที่จับตัวหนา
🔹 4. ช่องระบายอากาศสะอาด ไม่มีฝุ่นหรือแมลง
- ตะแกรงระบายความร้อนด้านหลังหรือด้านข้างเครื่อง ต้องไม่มีฝุ่นหนา หรือเส้นใยแมงมุม
- ไม่ควรมีมด แมลง หรือสิ่งแปลกปลอมใดๆ เข้าไปอุดในช่องระบายอากาศ
🔹 5. ไม่มีรอยรั่วซึมหรือคราบน้ำไหลเปื้อน
- ตัวเครื่องด้านนอก แห้งสนิท ไม่มีรอยเปียกหรือคราบน้ำไหลเปื้อน
- หากพบรอยน้ำซึมหรือเปียก → อาจเป็นสัญญาณของการรั่วซึมภายใน ควรรีบตรวจสอบ
🔹 6. ปลั๊กไฟและสายไฟอยู่ในสภาพดี ไม่ชำรุด
- สายไฟต้องไม่ขาด ไม่เปื่อย ไม่บิดงอผิดรูป
- หัวปลั๊กเสียบแน่น ไม่มีคราบดำ หรือกลิ่นไหม้
- ไม่มีการพันสายไฟด้วยเทปกาวหรือเทปพันสายไฟ → เสี่ยงไฟรั่ว
💡 สรุปง่ายๆ :
ตู้น้ำดื่มที่สะอาด = ไม่มีคราบ ไม่มีเมือก ไม่มีฝุ่น สบายตา กดแล้วมั่นใจ
ใครเห็นก็กล้ากดน้ำดื่มทันที ไม่กังวลสุขภาพ ปลอดภัยทุกหยด! 🚰🧼✅
การดูแลภายในตู้น้ำดื่ม คือจุดสำคัญที่สุด เพราะเป็นพื้นที่ที่น้ำสัมผัสโดยตรงก่อนเข้าสู่ร่างกายคนดื่ม หากไม่สะอาด หรือมีคราบและเชื้อโรคสะสม น้ำที่กดออกมาจะปนเปื้อนด้วย เสี่ยงต่อสุขภาพ
🔹 1. ถังเก็บน้ำสะอาด ไม่มีคราบหรือตะไคร่
- ถังเก็บน้ำควรใสสะอาด ไม่มีคราบเขียว คราบดำ หรือคราบขุ่น ๆ
- ไม่ควรมีเมือกลื่นๆที่พื้นถังหรือขอบถัง ซึ่งเป็นสัญญาณของเชื้อราและแบคทีเรีย
- ไม่มีตะกอนหรือเศษลอยในน้ำ
🔹 2. ไส้กรองน้ำอยู่ในสภาพดี ไม่อุดตัน ไม่หมดอายุ
- ไส้กรองน้ำควรใหม่หรือยังมีสภาพดี ไม่มีคราบดำหรือสิ่งสกปรกเกาะติด
- ไม่อุดตันจนทำให้น้ำไหลช้า หรือไม่ไหลเลย
- มีการเปลี่ยนไส้กรองน้ำตามรอบที่กำหนดทุก 6–12 เดือน ขึ้นอยู่กับประเภทและการใช้งาน
- ไม่มีกลิ่นอับ กลิ่นเหม็น หรือกลิ่นสนิมจากน้ำที่ผ่านไส้กรอง
🔹 3. ท่อส่งน้ำภายในสะอาด ไม่มีคราบหินปูน/สนิม
- ท่อน้ำควรใสสะอาด ไม่มีตะกอนจับ ไม่มีคราบขุ่นๆ
- ไม่มีรอยรั่ว ไม่มีเสียงน้ำไหลผิดปกติ หรือการไหลไม่สม่ำเสมอ
🔹 4. ระบบทำความเย็นและน้ำร้อนทำงานปกติ
- คอมเพรสเซอร์ไม่รั่ว น้ำยาไม่ร้อนผิดปกติ และไม่มีเสียงดัง/สั่นแปลกๆ
- ระบบน้ำร้อนทำงานได้ดี ไม่มีเสียงหรือกลิ่นไหม้ขณะทำงาน
🔹 5. ไม่มีกลิ่นอับหรือกลิ่นแปลกในถังและภายในเครื่อง
- เมื่อเปิดฝาถังหรือดูดน้ำออกมา ไม่ควรมีกลิ่นเปรี้ยว กลิ่นอับ หรือกลิ่นโลหะฉุน ๆ
- ถ้ามีกลิ่น = สัญญาณของการสะสมเชื้อโรค → ต้องล้างระบบทันที
💡 เคล็ดลับมือโปร :
- ✅ ล้างตู้กดน้ำทุก 1–3 เดือน ด้วยน้ำร้อนหรือน้ำยาฆ่าเชื้อที่ปลอดภัยกับน้ำดื่ม
- ✅ เช็คไส้กรองเดือนละครั้ง และจดบันทึกวันเปลี่ยนทุกครั้ง
- ✅ ห้ามลืมล้างด้านในฝาถัง เพราะเป็นจุดที่เชื้อโรคชอบสะสมมากที่สุด
การประเมินคุณภาพน้ำจากตู้น้ำดื่มที่ดี ไม่ใช่แค่ดูว่าน้ำใสหรือไม่ แต่ต้องมั่นใจว่าน้ำที่กดออกมา ปลอดภัยต่อร่างกาย ไร้เชื้อโรค ไร้สารปนเปื้อน และไม่มีสัญญาณอันตรายใดๆซ่อนอยู่ ซึ่งเราสามารถตรวจสอบเบื้องต้นได้ง่ายๆด้วย “ประสาทสัมผัสทั้ง 3” คือ ดู ดม ชิม
หากผ่านครบ = ดื่มได้อย่างมั่นใจ สบายใจทุกแก้ว
🔹 1. น้ำใส ไม่มีตะกอนหรือสีผิดปกติ
- น้ำที่สะอาดต้องมีลักษณะใสสนิท ไม่มีความขุ่นหรือสีแปลก เช่น ขาวซีด เหลือง หรือเขียวอ่อนๆ
- ไม่มีตะกอนหรือเศษลอย เช่น ตะไคร่น้ำ เศษฝุ่น หรือคราบสกปรก
- น้ำต้องไม่มี “คราบลอย” เมื่อสังเกตในแก้วใส หรือไม่มีการแยกชั้นของน้ำ
🔹 2. ไม่มีกลิ่นแปลก กลิ่นอับ หรือกลิ่นคลอรีนแรง
- น้ำดื่มที่ปลอดภัยไม่ควรมีกลิ่น หรืออาจมีกลิ่นคลอรีนอ่อนมากจากการฆ่าเชื้อ ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับปลอดภัย
- ห้ามมีกลิ่นอับชื้น กลิ่นเปรี้ยว กลิ่นเหม็นอับ หรือกลิ่นสนิม ซึ่งเป็นสัญญาณของเชื้อรา/แบคทีเรีย/ตะกอนโลหะสะสม
🔹 3. รสชาติจืดสนิท ไม่มีรสขม เปรี้ยว หรือเค็ม
- น้ำที่ปลอดภัยต้องมีรสชาติจืดสนิท ไม่เปรี้ยว ไม่ขม ไม่เค็ม ไม่ฝาด
- รสชาติผิดปกติ บ่งบอกถึงสารเคมีตกค้าง โลหะหนัก หรือไส้กรองน้ำเสื่อม
💧 คุณภาพน้ำดี = ไม่มีเชื้อโรค ไม่มีสารตกค้าง
น้ำดื่มสะอาดควรปลอดภัยจาก :
✅ เชื้อโรค เช่น E. coli, เชื้อรา, แบคทีเรีย
✅ สิ่งสกปรก เช่น ตะกอน ตะไคร่ หินปูน
✅ สารเคมี เช่น คลอรีนตกค้าง, โลหะหนัก (ตะกั่ว, เหล็ก, สังกะสี)
💡 วิธีตรวจสอบเพิ่มเติมแบบมือโปร :
- ใช้ TDS Meter เช็คค่าความบริสุทธิ์ของน้ำ
- ใช้ชุดตรวจน้ำ (Water Test Kit) ตรวจวัด pH, คลอรีน, โลหะหนัก, เชื้อโรค
การดูแลตู้น้ำดื่มให้สะอาด ไม่ใช่แค่ “ล้างเมื่อเห็นคราบ” แต่ต้องมีการดูแลเชิงป้องกันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้เชื้อโรคและคราบสะสมจนกลายเป็นปัญหาภัยเงียบ การล้างให้ถูกจุดและในรอบเวลาที่เหมาะสม จะช่วยให้น้ำดื่มปลอดภัย ยืดอายุการใช้งาน และลดค่าใช้จ่ายซ่อมบำรุง
🔧 1. ล้างถังเก็บน้ำทุก 1–3 เดือนหรือทุก 6 เดือน
- ใช้เครื่องฉีดพ่นไอน้ำสตรีมเมอร์แรงดันสูงพ่นฆ่าเชื้อภายในถังเก็บน้ำและก๊อกน้ำ
- ใช้น้ำอุ่นผสมน้ำส้มสายชูหรือน้ำยาฆ่าเชื้อที่ Food Grade ในการล้าง
- เช็ดถังเก็บน้ำด้วยฟองน้ำ แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดจนหมดฟองหรือกลิ่น
- เช็ดให้แห้งด้วยผ้าไร้ขุยก่อนใช้งาน
🔧 2. เปลี่ยนไส้กรองน้ำทุก 6–12 เดือน (ตามรอบใช้งาน)
- ไส้กรองน้ำที่หมดอายุ = แหล่งสะสมเชื้อโรค/ตะกอน/สารเคมีตกค้าง
- จดบันทึกวันเปลี่ยนทุกครั้ง เพื่อไม่พลาดรอบเปลี่ยนใหม่
- ตรวจไส้กรองทุกเดือน ถ้าเริ่มมีคราบดำ เปื่อย หรืออุดตัน ให้เปลี่ยนทันที
🔧 3. เช็ดก๊อกน้ำและถาดรองน้ำสัปดาห์ละครั้ง
- ใช้แอลกอฮอล์หรือน้ำอุ่นผสมเบกกิ้งโซดา เช็ดรอบก๊อกและปุ่มกด
- ถาดรองน้ำต้องไม่มีน้ำขัง ตะไคร่ หรือเศษขยะสะสม
- หมั่นเทน้ำทิ้ง และเช็ดให้แห้งอยู่เสมอ
🔧 4. ตรวจระบบไฟฟ้าและสายไฟเดือนละครั้ง
- สายไฟไม่ควรมีรอยขาด/เปื่อย หรือใช้เทปพันสายไฟ
- ปลั๊กต้องแน่น ไม่มีคราบดำหรือกลิ่นไหม้
- ใช้ไขควงเช็คไฟ ทดสอบไฟรั่วเดือนละครั้ง
🔧 5. วางเครื่องในที่สะอาด อากาศถ่ายเทดี
- อย่าตั้งเครื่องในที่อับชื้น ใกล้แดด หรือแหล่งความร้อน เช่น เตาไฟ
- เว้นระยะรอบเครื่อง 10–15 ซม. ให้ระบายอากาศดี
💡 เคล็ดลับระดับมือโปร :
- ✅ ใช้แบบฟอร์มตรวจสอบตู้น้ำดื่มรายเดือน เช็คครบทุกจุด ไม่หลุดรอบ
- ✅ แม้ไม่มีคราบ → ควรล้างทุกเดือนเพื่อป้องกัน “เชื้อโรคแฝง”
- ✅ ให้ช่างเช็คระบบทุกปี เพื่อดูว่าคอมเพรสเซอร์หรือระบบร้อนยังทำงานเต็มที่
ตู้น้ำดื่มสะอาด ต้อง “ล้าง – เปลี่ยน – เช็ค” ให้ครบทุกขั้นตอน
ล้างถังเก็บน้ำ → เปลี่ยนไส้กรอง → เช็ดก๊อกน้ำ → ตรวจระบบไฟ → วางในที่เหมาะสม = น้ำใส เครื่องทน คนดื่มมั่นใจ ปลอดภัย 100% 🚰🧽✨
ตู้น้ำดื่มจะสะอาดแค่ไหน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับ “หน้าตาเครื่อง” แต่ขึ้นกับว่ามีการดูแลบำรุง และล้างอย่างสม่ำเสมอหรือไม่ ถ้าใส่ใจตรวจเช็คทุกจุดอย่างถูกวิธี น้ำที่ได้ก็จะใสสะอาด ปลอดภัย ไม่เสี่ยงเชื้อโรค หรือสารปนเปื้อนให้ต้องกังวล
🧼 เคล็ดลับดูแลตู้น้ำให้สะอาดอยู่เสมอ :
✔️ ล้างถังเก็บน้ำทุก 1–3 เดือน หรือทุก 6 เดือน
✔️ เปลี่ยนไส้กรองน้ำ ทุก 6–12 เดือน
✔️ เช็ดก๊อกน้ำและถาดรองน้ำทุกสัปดาห์
✔️ ตรวจปลั๊กและสายไฟ เดือนละครั้ง
✔️ วางเครื่องในที่สะอาด อากาศถ่ายเทดี
คลิป Youtube
เครื่องทำน้ำเย็น ราคาโรงงาน
⭐ สะอาด ประหยัด ใช้งานง่าย ⭐
ไม่ต้องลำบากซื้อน้ำแพ็คให้เปลืองเงิน แค่เดินไปกรอกน้ำก็ดื่มได้ทันที เหมาะกับออฟฟิศสำนักงาน โรงงาน โรงเรียนที่มีคนจำนวนมาก ทำให้ทุกคนเข้าถึงน้ำสะอาดได้ง่าย และมีคุณภาพชีวิตที่ดีอีกด้วยครับ
เช็คราคาเครื่องทำน้ำเย็นเงื่อนไขการให้บริการ
- ราคาขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการให้บริการ เช่น ราคาส่งอย่างเดียว ราคาส่งพร้อมติดตั้ง สามารถสอบถามและขอใบเสนอราคาได้ตามช่องทางติดต่อด้านล่าง
- ส่งสินค้าฟรีเฉพาะเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล
- หากลูกค้าอยู่ต่างจังหวัด มี 2 กรณี
3.1 ส่งอย่างเดียวโดยการใช้บริการขนส่ง ค่าขนส่งขึ้นอยู่กับระยะทางและน้ำหนักสินค้า จ่ายต้นทางหรือปลายทางขึ้นอยู่กับการตกลง
3.2 ทางเราดำเนินการส่งเองพร้อมติดตั้งให้ โดยจะมีการคิดค่าน้ำมันตามระยะทางไป-กลับ
หมายเหตุ : ทางเราไม่ได้มีบริการติดตั้งทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย เช่น ภาคเหนือ ภาคใต้ ทางเราไม่มีบริการติดตั้ง ขึ้นอยู่กับระยะทางและปริมาณการซื้อขาย สามารถทักมาสอบถามพูดคุยเบื้องต้นก่อนได้ตามช่องทางการติดต่อด้านล่าง
- การติดตั้งไม่รวมถึงการเดินท่อประปา, ท่อน้ำทิ้ง, ปลั๊กไฟ และสายไฟ สิ่งเหล่านี้เป็นความรับผิดชอบของลูกค้า
- ติดตั้งฟรีหน้างานในระยะไม่เกิน 5 เมตร จากจุดเชื่อมน้ำประปา ก๊อกน้ำ หรือวาล์วน้ำ เป็นสายอ่อน 2 หุน
- ไม่รับประกันอุปกรณ์ที่เสื่อมสภาพตามการใช้งาน เช่น ก๊อกน้ำ แกนก๊อก ไส้กรองน้ำ
- มีตู้สำรองให้ใช้ระหว่างการซ่อมตลอดอายุการใช้งาน หากต้องยกตู้เข้าโรงงานเพื่อตรวจเช็ค
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อสินค้า ขอใบเสนอราคา
Line | คลิกที่นี่เพื่อ Chat ทันที | |
siamcooler1@gmail.com | ||
@siamcooler | ||
Youtube | @siamcooler | |
ออฟฟิศ | 02-539-2630 | 02-539-2607 |
02-538-6343 | ||
มือถือ | 092-364-4629 (ฝ่ายขาย) | 087-935-1415 (ฝ่ายซ่อมบำรุง) |
แฟกซ์ | 02-931-1381 |
Siamcooler Mart and Service ยินดีให้คำปรึกษาและให้บริการอย่างเต็มความสามารถเพื่อช่วยลูกค้าแก้ปัญหา เปรียบเสมือนแผนกหนึ่งในองค์กรที่ช่วยดูแลเรื่องตู้กดน้ำ ไส้กรองน้ำ เครื่องกรองน้ำ อะไหล่ และบริการบำรุงรักษา เช่น การล้างทำความสะอาด การซ่อมบำรุง การทำสัญญาบริการรายปี
ประสบการณ์กว่า 20 ปี มีฐานลูกค้ามากกว่า 6,000 ราย ได้รับความไว้วางใจจากภาครัฐ เอกชน โรงเรียน ครัวเรือน และขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง จากการบอกต่อของลูกค้าที่ประทับใจในการใช้บริการกับเรา สามารถชื่นชมผลงานที่ผ่านมาของเราได้ที่นี่