เครื่องดื่มที่ผู้ป่วยเบาหวานควรดื่ม ได้แก่ น้ำเปล่า, นมวัวไขมันต่ำ, ชาเขียวมัทฉะ, กาแฟและชาไม่หวาน, น้ำมะเขือเทศ 100%
สิ่งที่ผู้ป่วยเบาหวานไม่ควรดื่ม ได้แก่ น้ำอัดลมและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล, เครื่องดื่มชูกำลัง, เครื่องดื่มเกลือแร่สำหรับนักกีฬา, เครื่องดื่มที่มีสารให้ความหวานเทียม
Lori Zanini, RD, CDCES นักโภชนาการที่ได้รับการขึ้นทะเบียนและผู้เชี่ยวชาญด้านโรคเบาหวาน อธิบายว่า “ของเหลวที่มีคาร์โบไฮเดรตจะถูกย่อยและดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้เร็วกว่าอาหารที่ต้องเคี้ยว ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว”
นี่คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้การเลือกเครื่องดื่มที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการควบคุมโรคเบาหวาน
1. น้ำเปล่า - ตัวเลือกที่ดีที่สุด
น้ำเปล่าเป็นเครื่องดื่มที่ดีที่สุดสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน เพราะไม่มีคาร์โบไฮเดรตและไม่ส่งผลกระทบต่อระดับน้ำตาลในเลือด ประโยชน์สำคัญของการดื่มน้ำเปล่าเพียงพอ มีดังนี้
- ช่วยป้องกันภาวะขาดน้ำซึ่งอาจส่งผลเสียต่อการควบคุมระดับน้ำตาล
- ช่วยเจือจางเลือด ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง
- ช่วยให้ไตทำงานได้ดี ซึ่งสำคัญมากสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
ตามคำแนะนำของ Mayo Clinic ผู้ชายควรได้รับของเหลวประมาณ 15½ ถ้วยต่อวัน และผู้หญิงควรได้รับประมาณ 11½ ถ้วยต่อวัน วิธีง่ายๆ ในการตรวจสอบว่าร่างกายได้รับน้ำเพียงพอคือการสังเกตสีปัสสาวะ ถ้าเป็นสีเหลืองอ่อนแสดงว่าได้รับน้ำเพียงพอแล้ว
2. นมวัวที่มีไขมันต่ำ
นมพร่องมันเนยหรือนมไขมันต่ำเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน แต่ต้องคำนึงถึงปริมาณคาร์โบไฮเดรตรวมที่ได้รับในแต่ละมื้อด้วย ประโยชน์ของนมวัวไขมันต่ำ มีดังนี้
- อุดมด้วยโปรตีนซึ่งช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด
- มีวิตามินดีที่สำคัญต่อการทำงานของอินซูลิน
จากข้อมูลของ กระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกา (USDA) นมไขมันต่ำ 1 แก้วให้แคลเซียม 310 มิลลิกรัม (มก.) ซึ่งคิดเป็นประมาณ 24 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณต่อวัน
ตามข้อมูลจาก Harvard Health Publishing นมมีดัชนีน้ำตาล (Glycemic Index) ต่ำกว่าเครื่องดื่มหลายชนิด ทำให้ส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดน้อยกว่า
3. ชาเขียวมัทฉะ
หลายทศวรรษที่ผ่านมา ชาเขียวและมัทฉะได้รับความนิยมทั่วโลก มีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์จำนวนมากที่เน้นย้ำถึงประโยชน์ต่อสุขภาพของชาเขียวและมัทฉะ เช่น การป้องกันหลอดเลือดหัวใจ การควบคุมน้ำหนัก และการควบคุมโรคเบาหวาน
ชาเขียวมัทฉะได้รับความนิยมในหมู่ผู้ป่วยเบาหวานเนื่องจากประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ ดังนี้
- มีสารแคเทชิน (Catechins) โดยเฉพาะ EGCG ที่ช่วยเพิ่มความไวต่ออินซูลิน
- มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงที่ช่วยลดภาวะการอักเสบที่เกี่ยวข้องกับโรคเบาหวาน
การศึกษาวิจัยจาก ScienceDirect แสดงให้เห็นว่าการดื่มชาเขียวและมัทฉะ เกี่ยวข้องกับความไวต่ออินซูลินที่ดีขึ้นและการลดระดับน้ำตาลในผู้ที่เป็นเบาหวานประเภท 2
4. กาแฟและชาไม่หวาน
กาแฟและชาที่ไม่เติมน้ำตาลสามารถเป็นส่วนหนึ่งของแผนการดูแลโรคเบาหวาน
- มีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพโดยรวม
- การศึกษาจาก European Journal of Nutrition พบว่าการดื่มกาแฟและชาแบบไม่หวานอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานประเภท 2
- หากต้องการรสหวาน แนะนำให้ใช้สารให้ความหวานจากธรรมชาติเช่นหญ้าหวาน
วารสาร Diabetologia รายงานผลการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่าผู้ที่ดื่มกาแฟอย่างสม่ำเสมอ 3-4 แก้วต่อวัน มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานประเภท 2 ลดลง 25% เมื่อเทียบกับผู้ที่ดื่มน้อยกว่า 2 แก้วต่อวัน
5. น้ำมะเขือเทศ 100%
น้ำมะเขือเทศที่ไม่เติมเกลือและน้ำตาลเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ป่วยเบาหวานที่ต้องการความหลากหลาย
- มีดัชนีน้ำตาล (Glycemic Index) ต่ำกว่าน้ำผลไม้ส่วนใหญ่
- อุดมด้วยไลโคปีน (Lycopene) ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดที่มักพบในผู้ป่วยเบาหวาน
- มีวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นหลายชนิด
การศึกษาจาก The American Journal of Clinical Nutrition พบว่าไลโคปีนในมะเขือเทศช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อยในผู้ป่วยเบาหวาน
อย่างไรก็ตาม การรับประทานมะเขือเทศทั้งผลจะให้ประโยชน์มากกว่าการดื่มในรูปแบบน้ำ เนื่องจากได้รับใยอาหารที่ช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาล
1. น้ำอัดลมและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล
เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเป็นอันตรายอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
- โซดากระป๋องขนาด 12 ออนซ์มีคาร์โบไฮเดรตประมาณ 38.5 กรัม ซึ่งสูงมาก
- จากการศึกษาพบว่า ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลมากกว่า 3 แก้วต่อสัปดาห์มีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานสูงกว่าถึง 46%
- งานวิจัยจาก BMJ (British Medical Journal) แสดงว่าแม้แต่การดื่มน้ำอัดลมหรือน้ำผลไม้เพียง 2 แก้วต่อสัปดาห์ก็เพิ่มความเสี่ยงโรคเบาหวานประเภท 2 อย่างมีนัยสำคัญ
น้ำตาลในเครื่องดื่มเหล่านี้ถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดอย่างรวดเร็ว ทำให้ระดับน้ำตาลพุ่งสูงขึ้นทันที
2. เครื่องดื่มชูกำลัง
เครื่องดื่มชูกำลังเป็นอันตรายสำหรับผู้ป่วยเบาหวานด้วยเหตุผลหลายประการ
- มีน้ำตาลสูง
- ปริมาณคาเฟอีนสูง (75 มิลลิกรัม) อาจส่งผลต่อการนอนหลับและรบกวนการควบคุมระดับน้ำตาล
- มีสารเติมแต่งที่อาจรบกวนจังหวะการเต้นของหัวใจและเพิ่มความดันโลหิต
มีการศึกษาพบว่าเครื่องดื่มชูกำลังอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนทางหัวใจและหลอดเลือดในผู้ป่วยเบาหวาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อดื่มเป็นประจำ
วิธีที่ดีกว่าในการเพิ่มพลังงานคือการนอนหลับให้เพียงพอ (7-9 ชั่วโมงต่อคืน) และออกกำลังกายสม่ำเสมอ
3. เครื่องดื่มเกลือแร่สำหรับนักกีฬา
แม้ว่าการออกกำลังกายจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน แต่เครื่องดื่มเกลือแร่มักไม่เหมาะสม เนื่องจาก
- มีคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลสูงเพื่อให้พลังงานแก่นักกีฬาที่ออกกำลังหนัก
- เหมาะสำหรับนักกีฬาที่ออกกำลังกายเข้มข้นเท่านั้น
- สำหรับผู้ป่วยเบาหวานที่ออกกำลังกายทั่วไป น้ำเปล่าเพียงพอแล้ว
เครื่องดื่มเกลือแร่ไม่จำเป็นสำหรับการออกกำลังกายที่มีระยะเวลาน้อยกว่า 60 นาที และอาจเพิ่มปริมาณน้ำตาลในเลือดโดยไม่จำเป็น
หลังออกกำลังกาย ควรเลือกอาหารว่างที่มีโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนในปริมาณเหมาะสม เช่น ไข่ต้ม หรือแอปเปิ้ลกับเนยถั่วเล็กน้อย
4. เครื่องดื่มที่มีสารให้ความหวานเทียม
เครื่องดื่มที่ใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาลอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่าเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล แต่ก็มีข้อควรระวัง
- Mayo Clinic ระบุว่าอาจช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและน้ำหนักได้ดีกว่าเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล
- อย่างไรก็ตาม งานวิจัยในปี 2019 จาก JAMA Internal Medicine พบว่าสารให้ความหวานเทียมอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานได้
- สารให้ความหวานเทียมมีความเข้มข้นมากกว่าน้ำตาลธรรมชาติหลายร้อยถึงหลายพันเท่า
- อาจส่งผลให้เกิดความอยากอาหารหวานมากขึ้น และรบกวนกลไกการควบคุมความอยากอาหารในสมอง
ผู้ป่วยเบาหวานควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพื่อคำแนะนำที่เหมาะสมเกี่ยวกับการใช้สารให้ความหวานเทียม
อินซูลินมีบทบาทสำคัญในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เครื่องดื่มที่ไม่กระตุ้นการหลั่งอินซูลินมากเกินไป มีดังนี้
- เครื่องดื่มที่ไม่มีคาร์โบไฮเดรต – น้ำเปล่า, ชาและกาแฟดำไม่หวาน
- เครื่องดื่มที่มีดัชนีน้ำตาลต่ำ – นมถั่วเหลืองไม่หวาน, นมอัลมอนด์ไม่หวาน
- เครื่องดื่มที่มีไฟเบอร์ – สมูทตี้ผักที่ไม่เติมน้ำตาล (เน้นผักใบเขียวมากกว่าผลไม้)
- เครื่องดื่มที่มีไขมันดี – น้ำมะพร้าวในปริมาณจำกัด (แม้จะมีคาร์โบไฮเดรตแต่มีไขมันดีที่ช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาล)
Diabetes UK แนะนำให้เลือกเครื่องดื่มที่มีผลน้อยต่อการกระตุ้นอินซูลิน เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้น
การเลือกเครื่องดื่มที่เหมาะสมเป็นส่วนสำคัญของการควบคุมโรคเบาหวานประเภท 2 ให้มีประสิทธิภาพ สามารถช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด น้ำหนักตัว และลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนได้
สรุปเครื่องดื่มที่เหมาะสมและไม่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
- ดื่มเป็นประจำ : น้ำเปล่า, ชาและกาแฟไม่หวาน, นมไขมันต่ำในปริมาณที่เหมาะสม
- ดื่มได้บ้างในปริมาณจำกัด : ชาเขียวมัทฉะ, น้ำมะเขือเทศ 100% ไม่เติมน้ำตาล
- หลีกเลี่ยง : น้ำอัดลม, เครื่องดื่มชูกำลัง, เครื่องดื่มเกลือแร่, นมรสหวาน, ชานมไข่มุก, น้ำผลไม้
International Diabetes Federation แนะนำว่าการตัดสินใจเล็กๆน้อยๆในแต่ละวัน เช่น การเลือกเครื่องดื่มอย่างเหมาะสม สามารถส่งผลใหญ่ต่อการควบคุมโรคเบาหวานในระยะยาว
การมีสุขภาพที่ดีเป็นการลงทุนระยะยาว การเลือกเครื่องดื่มอย่างชาญฉลาดวันนี้จะส่งผลดีต่อสุขภาพของคุณในอนาคต ควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการเพื่อคำแนะนำที่เหมาะสมกับสภาวะสุขภาพเฉพาะบุคคล
เงื่อนไขการให้บริการ
- ราคาขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการให้บริการ เช่น ราคาส่งอย่างเดียว ราคาส่งพร้อมติดตั้ง สามารถสอบถามและขอใบเสนอราคาได้ตามช่องทางติดต่อด้านล่าง
- ส่งสินค้าฟรีเฉพาะเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล
- หากลูกค้าอยู่ต่างจังหวัด มี 2 กรณี
3.1 ส่งอย่างเดียวโดยการใช้บริการขนส่ง ค่าขนส่งขึ้นอยู่กับระยะทางและน้ำหนักสินค้า จ่ายต้นทางหรือปลายทางขึ้นอยู่กับการตกลง
3.2 ทางเราดำเนินการส่งเองพร้อมติดตั้งให้ โดยจะมีการคิดค่าน้ำมันตามระยะทางไป-กลับ
หมายเหตุ : ทางเราไม่ได้มีบริการติดตั้งทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย เช่น ภาคเหนือ ภาคใต้ ทางเราไม่มีบริการติดตั้ง ขึ้นอยู่กับระยะทางและปริมาณการซื้อขาย สามารถทักมาสอบถามพูดคุยเบื้องต้นก่อนได้ตามช่องทางการติดต่อด้านล่าง
- การติดตั้งไม่รวมถึงการเดินท่อประปา, ท่อน้ำทิ้ง, ปลั๊กไฟ และสายไฟ สิ่งเหล่านี้เป็นความรับผิดชอบของลูกค้า
- ติดตั้งฟรีหน้างานในระยะไม่เกิน 5 เมตร จากจุดเชื่อมน้ำประปา ก๊อกน้ำ หรือวาล์วน้ำ เป็นสายอ่อน 2 หุน
- ไม่รับประกันอุปกรณ์ที่เสื่อมสภาพตามการใช้งาน เช่น ก๊อกน้ำ แกนก๊อก ไส้กรองน้ำ
- มีตู้สำรองให้ใช้ระหว่างการซ่อมตลอดอายุการใช้งาน หากต้องยกตู้เข้าโรงงานเพื่อตรวจเช็ค
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อสินค้า ขอใบเสนอราคา
Line | คลิกที่นี่เพื่อ Chat ทันที | |
siamcooler2025@gmail.com | ||
@siamcooler | ||
Youtube | @siamcooler | |
ออฟฟิศ | 02-539-2630 | 02-539-2607 |
02-538-6343 | ||
มือถือ | 092-364-4629 (ฝ่ายขาย) | 087-935-1415 (ฝ่ายซ่อมบำรุง) |
แฟกซ์ | 02-931-1381 |
Siamcooler Mart and Service ยินดีให้คำปรึกษาและให้บริการอย่างเต็มความสามารถเพื่อช่วยลูกค้าแก้ปัญหา เปรียบเสมือนแผนกหนึ่งในองค์กรที่ช่วยดูแลเรื่องตู้กดน้ำ ไส้กรองน้ำ เครื่องกรองน้ำ อะไหล่ และบริการบำรุงรักษา เช่น การล้างทำความสะอาด การซ่อมบำรุง การทำสัญญาบริการรายปี
ประสบการณ์กว่า 20 ปี มีฐานลูกค้ามากกว่า 6,000 ราย ได้รับความไว้วางใจจากภาครัฐ เอกชน โรงเรียน ครัวเรือน และขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง จากการบอกต่อของลูกค้าที่ประทับใจในการใช้บริการกับเรา สามารถชื่นชมผลงานที่ผ่านมาของเราได้ที่นี่