1. เครื่องกรองน้ำไหลช้า คืออะไร?
น้ำกรองไหลช้า คืออาการที่แรงดันน้ำจากเครื่องกรองลดลงกว่าปกติ เช่น
- เปิดก๊อกแล้วน้ำไหลเป็นเส้นเล็ก ๆ
- ใช้เวลานานกว่าจะได้แก้วน้ำเต็ม
- เครื่องกรองระบบ RO หรือ UF ทำงานช้ากว่าปกติ
ปัญหานี้มักไม่ได้เกิดทันที แต่มักเกิดเมื่อใช้งานเครื่องกรองน้ำเกิน 6 เดือนขึ้นไป ซึ่งโดยทั่วไปเครื่องกรองน้ำ โดยเฉพาะระบบ RO (Reverse Osmosis) ต้องอาศัยแรงดันน้ำเพียงพอเพื่อดันน้ำผ่านเยื่อกรองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อ่านต่อ : น้ำ RO คืออะไร? มีคุณสมบัติอะไร? มีข้อดี ข้อเสียยังไง?
⚙️ ตัวอย่างสถานการณ์จริง
- บ้านที่ใช้เครื่องกรองน้ำ 5 ขั้นตอน แต่ไม่เคยเปลี่ยนไส้กรองเลยเกิน 1 ปี → น้ำแทบไม่ไหล
- เครื่องกรองน้ำ RO450G ที่ใช้ในร้านกาแฟ ปั๊มมีแรงดันไม่พอ → น้ำไหลเป็นหยด
2. สาเหตุหลักของปัญหาน้ำกรองไหลช้า
เราสามารถแบ่งสาเหตุที่น้ำไหลช้าได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ คือ
🔹 กลุ่มที่ 1 : ปัญหาแรงดันน้ำ
แรงดันน้ำประปาต่ำ
- ใช้น้ำบาดาลซึ่งเป็นแหล่งน้ำที่มีแรงดันต่ำ
- เครื่องกรองน้ำ ระบบ RO ต้องการแรงดันน้ำประมาณ 40–60 PSI เพื่อให้ไส้กรองทำงานเต็มประสิทธิภาพ
- ถ้าแรงดันต่ำกว่า 30 PSI น้ำจะไหลช้าแน่นอน
แทงค์น้ำตั้งต่ำเกินไป
- แท้งค์น้ำควรอยู่สูงกว่าหัวเครื่องกรองอย่างน้อย 2 เมตร เพื่อให้แรงดันไหลลงได้ตามแรงโน้มถ่วง
🔹 กลุ่มที่ 2 : ปัญหาที่ตัวเครื่องหรือไส้กรอง
ไส้กรองอุดตัน
- เกิดจากไม่ได้เปลี่ยนไส้กรองน้ำตามรอบระยะเวลาที่เหมาะสม
- ไส้กรอง PP อุดตันจากการสะสมของตะกอน สนิม สิ่งสกปรก
- ไส้กรองคาร์บอนอุดตันจากคลอรีน, ไส้กรองเรซิ่นอุดตันจากคราบหินปูน
- ไส้กรอง RO ตันเร็วกว่าปกติ เนื่องจากไส้กรองขั้นตอนแรกๆเสื่อมสภาพ
- เลือกใช้เครื่องกรองน้ำที่ไม่เหมาะสมกับแหล่งน้ำในสถานที่นั้นๆ เช่น น้ำมีสารปนเปื้อนสูง มีโลหะหนัก ตะกั่ว ปรอท สารอันตราย แต่เลือกใช้ระบบ UF ซึ่งไม่เพียงพอ
ถังแรงดันเสีย (ในระบบ RO)
- ถังแรงดันจะมี “ลม” อยู่ภายใน ถ้าลมหมดหรือลูกยางเสีย แรงดันปล่อยน้ำจะตก
🔹 กลุ่มที่ 3 : ปัญหาท่อและอุปกรณ์
- ท่อน้ำอุดตัน / มีตะกอนในข้อต่อ
- วาล์วเปิดน้ำเข้าเครื่องกรองเสื่อมสภาพ หรือเปิดไม่สุด
- โซลินอยด์วาล์วไฟฟ้าขัดข้อง
- ปั๊มอัดแรงดันเสื่อมสภาพ
หมวดสาเหตุ |
รายละเอียด |
วิธีแก้ไขเบื้องต้น |
|---|---|---|
| แรงดันน้ำต่ำ | น้ำประปาไหลอ่อน / แท้งค์น้ำตั้งต่ำ |
|
| ไส้กรองน้ำอุดตัน | คราบตะกอนสะสม |
|
| ถังแรงดันเสีย | ไม่มีแรงดันปล่อยน้ำ | ควรเติมลมหรือเปลี่ยนถังแรงดันใหม่ |
| วาล์วเปิด-ปิดมีปัญหา / ท่ออุดตัน | มีตะกอน / คราบ / สิ่งสกปรกสะสมอยู่ด้านใน |
|
| โซลินอยด์วาล์วเสีย | วาล์วเปิดไม่สุด | ตรวจระบบไฟ / เปลี่ยนวาล์ว |
3. วิธีตรวจสอบน้ำไหลช้าเบื้องต้นด้วยตัวเองแบบเข้าใจง่าย
หากคุณยังไม่มั่นใจว่าปัญหาเกิดจากอะไร ลองทำการตรวจสอบ 5 ขั้นตอนต่อไปนี้ก่อนเรียกช่างครับ
✅ ขั้นตอนที่ 1 : ตรวจแรงดันน้ำก่อนเข้าเครื่องกรอง
- ปิดวาล์วเครื่องกรอง แล้วเปิดก๊อกน้ำตรงก่อนเข้าระบบ
- ถ้าน้ำแรงดี แปลว่าปัญหาอยู่ “ภายในเครื่อง”
- ถ้าน้ำอ่อนตั้งแต่ต้น ต้องแก้ที่แรงดันก่อน
✅ ขั้นตอนที่ 2 : เปิดดูไส้กรองชั้นแรก (PP Sediment)
- ถ้าไส้กรองมีสีเข้ม น้ำตาล หรือดำ แสดงว่า “ตัน”
- ให้เปลี่ยนทันที เพราะเป็นด่านแรกที่ขวางตะกอน
✅ ขั้นตอนที่ 3 : ฟังเสียงปั๊ม
- ปั๊มทำงานตลอดเวลา → แรงดันตก
- ปั๊มไม่ทำงานเลย → ไฟเข้าไม่ถึง / โซลินอยด์วาล์วค้าง
✅ ขั้นตอนที่ 4 : ตรวจถังแรงดัน (ระบบ RO)
- ปิดวาล์วขาออก แล้วเปิดน้ำออกจนหมด
- ถ้าไม่มีแรงดันน้ำพุ่งออก แปลว่าถังหมดลม
✅ ขั้นตอนที่ 5 : ตรวจดูข้อต่อและท่อ
- ลองถอดปลายท่อดูว่ามีน้ำออกดีไหม
- ถ้ามีตะกอน / คราบขาว → ล้างด้วยน้ำส้มสายชูเจือจาง
💡 เคล็ดลับ
หากมีเครื่องวัดแรงดัน (Pressure Gauge) จะช่วยตรวจได้ง่ายมาก
แรงดันน้ำเข้า 40–60 PSI คือค่ามาตรฐานสำหรับระบบ RO ในบ้าน
4. วิธีแก้ไขเครื่องกรองน้ำไหลช้าอย่างเป็นขั้นตอน
หลังจากตรวจสอบแล้ว พบว่าปัญหาอยู่ที่ไหน ให้ดำเนินการแก้ตามนี้ครับ
🔧 ขั้นตอนที่ 1 : เปลี่ยนไส้กรองที่ครบอายุ
- ไส้กรอง PP → เปลี่ยนทุก 3–6 เดือน
- ไส้กรองคาร์บอน / เรซิน → ทุก 6 เดือน
- RO Membrane → ทุก 12 เดือน (ถ้าใช้ในพื้นที่น้ำขุ่น / น้ำบาดาล อาจต้องเปลี่ยนบ่อยกว่านั้น)
- ไส้กรอง Post Carbon → ทุก 6 เดือน
⚙️ ขั้นตอนที่ 2 : เพิ่มแรงดันน้ำ
- ถ้าแรงดันต่ำกว่า 30 PSI → ติดตั้งปั๊มเพิ่มแรงดัน
💨 ขั้นตอนที่ 3 : เติมลมในถังแรงดัน (เฉพาะระบบ RO)
- ใช้ที่สูบลมแบบวาล์ว Schrader (เหมือนจุกลมจักรยาน)
- เติมแรงดันประมาณ 7–10 PSI ก่อนน้ำเข้าถัง
🧽 ขั้นตอนที่ 4 : ล้างระบบท่อและข้อต่อ
- ถอดท่อออกมาล้างด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำส้มสายชูเจือจาง
- ตรวจเช็คซีลยาง (O-ring) ว่ายังแน่น ไม่ฉีกขาด
⚡ ขั้นตอนที่ 5 : ตรวจระบบไฟฟ้าและวาล์ว
- ตรวจสายไฟปั๊ม / โซลินอยด์ / เซนเซอร์แรงดัน
- ถ้าไฟเข้าแต่ไม่เปิดวาล์ว ให้เปลี่ยนวาล์วใหม่
5. เคล็ดลับป้องกันไม่ให้ปัญหานี้กลับมาอีก
เคล็ดลับ |
รายละเอียด |
|---|---|
| ✅ เปลี่ยนไส้กรองน้ำตามรอบ | ติดป้ายวันที่เปลี่ยนไส้กรองน้ำไว้บนเครื่อง |
| ✅ ตรวจแรงดันน้ำทุก 3 เดือน | ถ้าแรงดันต่ำกว่า 40 PSI ให้ติดปั๊มหรือเปลี่ยนปั๊มใหม่ |
| ✅ ล้างระบบทุก 6 เดือน | ป้องกันตะกอนและแบคทีเรียสะสม |
| ✅ ใช้ Pre-Filter ถังแมงกานีส | กรองตะกอนก่อนเข้าระบบหลัก |
| ✅ ตรวจค่า TDS / pH เป็นระยะ | ค่า TDS สูง = ระบบกรองเริ่มเสื่อม (WHO Drinking-water Guidelines) |
💡 Tip สำหรับบ้านในไทย
ถ้าอยู่ในพื้นที่ที่น้ำมีตะกอนมาก เช่น น้ำประปาส่วนภูมิภาค หรือน้ำบาดาล ควรติดตั้งระบบ Pre-Filter ถังคาร์บอน + เรซิน + แมงกานีส ก่อนเข้าเครื่องกรองน้ำหลัก จะช่วยยืดอายุไส้กรองหลักได้
6. สรุป
น้ำกรองไหลช้าไม่ใช่แค่เรื่องความรำคาญ แต่คือสัญญาณเตือนว่าระบบกรองเริ่มทำงานผิดปกติ การแก้ไขเบื้องต้น เช่น ตรวจสอบแรงดันน้ำ เปลี่ยนไส้กรองน้ำใหม่ หรือทำความสะอาดระบบ สามารถยืดอายุการใช้งานและลดความเสี่ยงจากน้ำดื่มไม่สะอาดได้อย่างมาก
💧 สรุปง่ายๆ :
- ตรวจสอบแรงดันน้ำให้คงที่ (40–60 PSI)
- เปลี่ยนไส้กรองตรงรอบ
- ล้างระบบทุก 6 เดือน
ที่สำคัญเราควรตรวจคุณภาพน้ำเป็นระยะ เพื่อให้น้ำดื่มสะอาด ไหลแรง ปลอดภัยเสมอ

