6 ขั้นตอนง่ายๆที่ต้องรู้ ล้างถังน้ำดื่มอย่างไรให้ปลอดเชื้อโรค?

ล้างถังน้ำดื่มอย่างไรให้ปลอดเชื้อโรค?

การรักษาความสะอาดของถังน้ำดื่มเป็นสิ่งสำคัญที่หลายคนมักมองข้าม หากไม่ดูแลอย่างถูกต้อง อาจมีเชื้อโรค ตะไคร่น้ำ และสิ่งสกปรกสะสมในถังน้ำ ส่งผลต่อคุณภาพน้ำและสุขภาพ ดังนั้น การล้างถังน้ำดื่มอย่างสม่ำเสมอด้วยวิธีที่ถูกต้อง จะช่วยให้คุณมั่นใจว่าน้ำที่คุณดื่มสะอาด ปลอดภัย และปราศจากสารปนเปื้อน

ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำขั้นตอนการล้างถังน้ำดื่มที่ถูกต้อง พร้อมวิธีป้องกันการเกิดตะไคร่น้ำ และเทคนิคการดูแลรักษาถังน้ำให้อยู่ในสภาพดี เพื่อให้ทุกคนดื่มน้ำที่สะอาดบริสุทธิ์และปลอดภัยต่อสุขภาพของตนเองและครอบครัวครับ

1. ขั้นตอนการล้างถังน้ำดื่มอย่างถูกต้อง

เพื่อให้ถังน้ำดื่มสะอาด ปราศจากเชื้อโรค ตะไคร่น้ำ และสิ่งสกปรก ควรใช้วิธีล้างที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ นี่คือเทคนิคการล้างถังน้ำที่ช่วยให้สะอาดหมดจดครับ

🔹 อุปกรณ์ที่ต้องใช้

✅ น้ำอุ่นหรือน้ำสะอาด
✅ น้ำส้มสายชูขาว / เบกกิ้งโซดา / น้ำเกลือ
✅ ฟองน้ำ หรือแปรงขัดขวดน้ำ
✅ แปรงด้ามยาวสำหรับทำความสะอาดด้านใน
✅ ผ้าสะอาดสำหรับเช็ดถัง

เบกกิ้งโซดา

🔹 6 ขั้นตอนการล้างถังน้ำดื่ม

  1. เทน้ำเก่าออกและล้างเบื้องต้น – เทน้ำที่เหลือออกจากถังให้หมด ล้างด้วยน้ำสะอาดรอบแรกเพื่อล้างฝุ่นและสิ่งสกปรกเบื้องต้น
  2. ผสมน้ำยาทำความสะอาดธรรมชาติเลือกใช้ 1 ใน 3 วิธีนี้เพื่อขจัดคราบและฆ่าเชื้อโรค

🔹 วิธีที่ 1 : ใช้น้ำส้มสายชูขาว (ฆ่าเชื้อโรคและลดกลิ่น)

  • ผสมน้ำส้มสายชูขาว 1 ส่วน กับน้ำ 3 ส่วน
  • เทลงในถังแล้วปิดฝา เขย่าถังให้ทั่ว หรือใช้แปรงขัดด้านใน
  • แช่ทิ้งไว้ 15-30 นาที ก่อนล้างออก

🔹 วิธีที่ 2 : ใช้เบกกิ้งโซดา (กำจัดคราบและกลิ่น)

  • ผสมเบกกิ้งโซดา 3-4 ช้อนโต๊ะ กับน้ำอุ่น
  • ใช้แปรงขัดด้านในของถัง โดยเฉพาะบริเวณก้นถัง
  • ทิ้งไว้ 10-15 นาที ก่อนล้างออก
เครื่องทำน้ำเย็น ราคา

เครื่องทำน้ำเย็น ราคาโรงงาน
สะอาด ประหยัด ใช้งานง่าย

ไม่ต้องลำบากซื้อน้ำแพ็คให้เปลืองเงิน แค่เดินไปกรอกน้ำก็ดื่มได้ทันที เหมาะกับออฟฟิศสำนักงาน โรงงาน โรงเรียนที่มีคนจำนวนมาก ทำให้ทุกคนเข้าถึงน้ำสะอาดได้ง่าย และมีคุณภาพชีวิตที่ดีอีกด้วยครับ

เช็คราคาเครื่องทำน้ำเย็น

🔹 วิธีที่ 3 : ใช้น้ำเกลือเข้มข้น (ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย)

  • ผสมเกลือ 3-4 ช้อนโต๊ะ กับน้ำอุ่น
  • ใช้ฟองน้ำหรือแปรงขัดถังให้ทั่ว
  1. ขัดถังให้สะอาด – ใช้แปรงขนนุ่มหรือฟองน้ำขัดบริเวณก้นถังและผนังถัง หากถังมีคราบตะไคร่ ให้ใช้แปรงด้ามยาวเพื่อขัดให้ทั่วถึง
  2. ล้างออกด้วยน้ำสะอาดหลายรอบ – ล้างถังน้ำพลาสติกด้วยน้ำสะอาด 2-3 ครั้ง จนกว่าสารทำความสะอาดจะหมด รอบสุดท้ายสามารถใช้น้ำต้มสุก เพื่อล้างเป็นการฆ่าเชื้อ
  3. ผึ่งให้แห้งก่อนใช้งาน – คว่ำถังน้ำไว้ในที่อากาศถ่ายเทสะดวกจนแห้งสนิหลีกเลี่ยงการตากแดดจัด เพราะอาจทำให้พลาสติกเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
  4. ปิดฝาถังให้สนิทก่อนใช้งานตรวจสอบให้แน่ใจว่าถังน้ำแห้งสนิท ก่อนเติมน้ำใหม่
    ปิดฝาให้แน่นเพื่อป้องกันฝุ่น แมลง และเชื้อโรค

แนวทางการเก็บรักษาน้ำอย่างปลอดภัยโดย CDC – ข้อมูลสำคัญจากศูนย์ควบคุมโรคแห่งสหรัฐฯ เกี่ยวกับวิธีการเก็บน้ำดื่มให้ปลอดภัยจากสิ่งปนเปื้อน ลดความเสี่ยงจากแบคทีเรียและสารพิษ

🔹 เคล็ดลับเพิ่มเติม

  • ✅ ทำความสะอาดถังอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อป้องกันเชื้อโรคสะสม
  • ✅ ใช้ถังที่มีสีทึบหรือกันแสง UV เพื่อป้องกันการเกิดตะไคร่น้ำ
  • ✅ อย่าลืมทำความสะอาดฐานรองถังน้ำ เพื่อป้องกันฝุ่นละออง
  • ✅ หากถังมีรอยแตกหรือคราบที่ล้างไม่ออก ควรเปลี่ยนถังใหม่ เพื่อสุขอนามัยที่ดี

2. วิธีสังเกตว่าถังน้ำดื่มต้องทำความสะอาดแล้ว

การทำความสะอาดถังน้ำดื่มเป็นประจำเป็นสิ่งสำคัญ แต่บางครั้งเราอาจลืมหรือมองข้ามไป จนเกิดปัญหา นี่คือสัญญาณที่บอกว่าถังน้ำดื่มของคุณควรได้รับการทำความสะอาดครับ

🔹 1. มีคราบตะไคร่น้ำหรือสีเปลี่ยนไป

  • ✅ หากสังเกตเห็นตะไคร่น้ำสีเขียวหรือสีน้ำตาล บริเวณก้นถังหรือด้านข้าง แสดงว่าแสงอาจทำปฏิกิริยากับน้ำ ทำให้ตะไคร่เติบโต
  • ✅ แม้ว่าถังน้ำ PET จะช่วยกันแสง UV ได้บางส่วน แต่หากตั้งถังในที่ที่มีแสงส่องถึง ก็อาจเกิดตะไคร่ได้

💡 วิธีแก้ไข : ล้างถังด้วยน้ำส้มสายชูหรือน้ำเกลือเข้มข้น ทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ และเก็บถังน้ำในที่ร่ม

🔹 2. มีกลิ่นไม่พึงประสงค์

  • ✅ หากน้ำดื่มเริ่มมีกลิ่นอับ กลิ่นเหม็น หรือกลิ่นคล้ายพลาสติก แสดงว่าอาจมีเชื้อแบคทีเรียหรือสารตกค้างสะสมในถังน้ำ

  • ✅ กลิ่นผิดปกติอาจมาจากสารอินทรีย์ที่สะสมจากน้ำที่เติมลงไปหลายรอบโดยไม่ได้ล้าง

💡 วิธีแก้ไข : ใช้เบกกิ้งโซดาผสมน้ำอุ่นเพื่อล้างกลิ่นออก และล้างถังเป็นประจำ

🔹 3. น้ำมีรสชาติผิดปกติ

  • ✅ น้ำดื่มที่เคยมีรสชาติจืดสนิท แต่เริ่มรู้สึกถึงรสขม ฝาด หรือเปรี้ยวเล็กน้อย อาจเป็นสัญญาณว่ามีสารปนเปื้อนหรือเชื้อแบคทีเรียสะสมอยู่ในถัง

  • ✅ แม้ว่าจะใช้น้ำสะอาดเติมลงไป แต่อย่าลืมว่าหากถังสกปรก น้ำดื่มก็จะปนเปื้อนอยู่ดี

💡 วิธีแก้ไข : ล้างถังด้วยน้ำส้มสายชูหรือน้ำยาฆ่าเชื้อแบบธรรมชาติ แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดหลายรอบ

🔹 4. มีคราบขาว หรือตะกรันจับที่ก้นถัง

  • ✅ หากพบคราบขาวๆ หรือตะกรันที่ก้นถัง แสดงว่ามีแร่ธาตุสะสมจากน้ำที่ใช้ เช่น แคลเซียมและแมกนีเซียม

  • ✅ ตะกรันอาจทำให้น้ำดื่มมีรสเปลี่ยน และเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค

💡 วิธีแก้ไข : ใช้เบกกิ้งโซดาผสมกับน้ำส้มสายชู หรือน้ำร้อนช่วยขจัดคราบตะกรัน

ล้างตู้กดน้ำเย็นกับเรา

สยามคูลเลอร์ มาร์ท แอนด์ เซอร์วิส รับบริการล้างตู้ทำน้ำเย็น ถังคว่ำ, ถังล่าง, กรองในตัว, ต่อตรงท่อประปา พร้อมตรวจเช็คอะไหล่ตู้น้ำดื่มด้านใน มีผลงานจริงให้รับชมทั้งรูปภาพและวิดีโอ คลิกปุ่มด้านล่างเพื่ออ่านรายละเอียด

🔹 5. มีฝุ่นละอองหรือสิ่งแปลกปลอมในถัง

  • ✅ หากพบฝุ่น เส้นผม หรือสิ่งสกปรกเล็กๆ อยู่ก้นถังหรือเกาะตามผนังถังน้ำ แสดงว่าถังน้ำอาจมีฝุ่นตกค้างจากการเปิด-ปิดฝาหลายครั้ง

💡 วิธีแก้ไข : ล้างถังน้ำให้สะอาด และปิดฝาถังให้สนิทเสมอ

🔹 6. ไม่ได้ล้างถังมานานแล้ว (เกิน 1-2 สัปดาห์)

  • ✅ หากคุณไม่สามารถจำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่ล้างถังคือเมื่อไหร่ นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าถึงเวลาทำความสะอาดแล้ว

  • ✅ ถึงแม้ว่าถังน้ำจะดูสะอาดจากภายนอก แต่อาจมีเชื้อโรคสะสมภายในที่มองไม่เห็น

💡 วิธีแก้ไข : ล้างถังสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หรืออย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง

3. วิธีดูแลรักษาถังน้ำดื่มให้สะอาดอยู่เสมอ

การดูแลรักษาถังน้ำดื่มให้สะอาดช่วยป้องกันการสะสมของเชื้อโรค ฝุ่นละออง และตะไคร่น้ำ ทำให้มั่นใจได้ว่าน้ำดื่มปลอดภัยและมีคุณภาพดีเสมอ ต่อไปนี้เป็นวิธีที่คุณสามารถปฏิบัติได้ง่ายๆ

🔹1. ทำความสะอาดถังน้ำเป็นประจำ

  • ล้างถังน้ำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หรือทุกครั้งที่เปลี่ยนน้ำใหม่
  • ใช้น้ำอุ่นผสมสบู่อ่อนๆ หรือเบกกิ้งโซดา แล้วขัดภายในถังด้วยฟองน้ำหรือแปรงขนนุ่ม
  • ล้างด้วยน้ำสะอาดหลายครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีสารตกค้าง

🔹 2. ป้องกันตะไคร่น้ำและเชื้อรา

  • เก็บถังน้ำในที่ร่ม หลีกเลี่ยงการตั้งถังในที่ที่โดนแสงแดดโดยตรง เพราะแสงแดดช่วยให้ตะไคร่น้ำเติบโต
  • ใช้ถังที่มีสีทึบหรือถัง PET กันแสง UV เพื่อลดโอกาสเกิดตะไคร่
  • หากมีตะไคร่เกิดขึ้น ให้ล้างถังด้วยน้ำส้มสายชูหรือน้ำเกลือ แล้วล้างออกให้สะอาด

🔹 3. ปิดฝาถังให้สนิททุกครั้ง

  • หลังเติมน้ำลงไป ควรปิดฝาถังให้แน่นเพื่อป้องกันฝุ่น แมลง และสิ่งสกปรกตกลงไป
  • หากฝาถังชำรุดหรือปิดไม่สนิท ควรเปลี่ยนฝาใหม่ทันที

🔹 4. หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีรุนแรง

  • 🚫 ไม่ควรใช้สารฟอกขาว หรือน้ำยาทำความสะอาดที่มีสารเคมีแรง เพราะอาจมีสารตกค้างที่เป็นอันตราย
  • ✅ หากต้องการฆ่าเชื้อโรค ควรใช้น้ำส้มสายชูผสมน้ำ หรือเบกกิ้งโซดา

🔹 5. เปลี่ยนถังน้ำหากมีรอยแตกหรือเสื่อมสภาพ

  • หากถังน้ำมีรอยร้าว เป็นรอยขีดข่วนมาก หรือเสื่อมสภาพ ควรเปลี่ยนใหม่ เพราะรอยแตกอาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค
  • ใช้ถังที่ทำจากพลาสติก PET เกรด A ที่ทนทานและปลอดภัยต่ออาหาร

🔹 6. ตรวจสอบคุณภาพน้ำเป็นประจำ

  • หากสังเกตเห็นว่าน้ำมีสีเปลี่ยนไป มีกลิ่นผิดปกติ หรือรสชาติเปลี่ยน อาจมีสิ่งปนเปื้อนในถัง ควรทำความสะอาดทันที
  • ใช้น้ำดื่มจากแหล่งที่ได้มาตรฐาน และหลีกเลี่ยงการใช้ถังเก่าเก็บที่ไม่ได้ล้าง

🔹 7. ใช้ฐานรองถังน้ำเพื่อป้องกันสิ่งสกปรก

  • วางถังน้ำบนฐานรอง หรือขาตั้งถัง เพื่อป้องกันฝุ่นและสิ่งสกปรกจากพื้น
  • ควรเช็ดทำความสะอาดฐานรองถังน้ำบ่อย ๆ

4. การป้องกันการเกิดตะไคร่น้ำและสิ่งสกปรกในถังน้ำดื่ม

ตะไคร่น้ำและสิ่งสกปรกในถังน้ำดื่มสามารถส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ำและสุขอนามัย หากปล่อยให้เกิดขึ้น อาจทำให้น้ำมีกลิ่นและรสชาติผิดปกติ รวมถึงเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคได้ ดังนั้นเราควรป้องกันตั้งแต่แรกด้วยวิธีดังต่อไปนี้ครับ

🔹 1. เก็บถังน้ำให้ห่างจากแสงแดด 🌞🚫

  • ตั้งถังน้ำในที่ร่ม ไม่ให้โดนแสงแดดโดยตรง เพราะแสงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตะไคร่น้ำเติบโต
  • หากเลี่ยงไม่ได้ ควรใช้ถังน้ำที่มีสีทึบหรือถัง PET กันแสง UV เพื่อลดโอกาสเกิดตะไคร่
  • สามารถใช้ผ้าคลุมถังน้ำ หรือวางไว้ในตู้กดน้ำที่มีฝาปิด

🔹 2. ทำความสะอาดถังน้ำเป็นประจำ 🧼💦

  • ล้างถังน้ำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อป้องกันการสะสมของตะไคร่และสิ่งสกปรก
  • ใช้น้ำอุ่นผสมสบู่อ่อนๆ หรือเบกกิ้งโซดา แล้วขัดภายในถัง
  • ล้างด้วยน้ำสะอาดหลายรอบเพื่อขจัดสารตกค้าง
ถังล่าง

เครื่องทำน้ำเย็น JX-12BL
New Model 

ตู้ทำน้ำเย็น ถังล่างที่มีถึง 3 อุณหภูมิ ได้แก่ น้ำเย็น น้ำร้อน น้ำธรรมดา โครงสร้างตู้ทำมาจากพลาสติก ABS ไม่ติดไฟ รับประกันคอมเพรสเซอร์ 5 ปี

คลิกเพื่อดูรายละเอียด

🔹 3. ปิดฝาถังให้สนิทเสมอ 🔒

  • ป้องกันฝุ่น แมลง และเชื้อโรค โดยการปิดฝาถังน้ำให้แน่นทุกครั้งหลังเติมน้ำ
  • หากฝาถังมีรอยแตกร้าว ควรเปลี่ยนฝาใหม่

🔹 4. ใช้น้ำสะอาดคุณภาพดี 💧

  • ควรเติมน้ำกรองหรือน้ำดื่มที่ได้มาตรฐานลงในถังเพื่อลดการสะสมของตะไคร่และสิ่งสกปรก
  • หลีกเลี่ยงการใช้น้ำที่มีแร่ธาตุสูงเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดตะกรันสะสม

🔹 5. หลีกเลี่ยงการเติมน้ำใหม่โดยไม่ล้างถัง ❌

  • ก่อนเติมน้ำใหม่ ควรล้างถังให้สะอาดทุกครั้ง เพื่อป้องกันการสะสมของตะไคร่และคราบตะกรัน
  • ไม่ควรเติมน้ำใหม่ทับน้ำเก่าที่เหลือในถัง เพราะอาจทำให้ตะไคร่เติบโตเร็วขึ้น

🔹 6. เช็ดทำความสะอาดภายนอกถังและฐานรองถังน้ำ 🧽

  • ฝุ่นละอองที่เกาะอยู่รอบถังอาจปนเปื้อนลงไปในน้ำได้ ควรเช็ดทำความสะอาดภายนอกถังเป็นประจำ
  • หากใช้ฐานรองถัง ควรเช็ดทำความสะอาดฐานรองด้วยน้ำอุ่นและผ้าแห้ง
สยามคูลเลอร์ให้บริการด้านเครื่องทำน้ำเย็น ดูแลเอาใจใส่เหมือนคู่หูที่ไม่ทิ้งกัน เป็นที่ปรึกษาได้ยามมีปัญหา ขอเพียงคุณทักมา เรายินดีให้คำปรึกษาฟรีอย่างเต็มที่

🔹 7. ใช้สารทำความสะอาดธรรมชาติช่วยป้องกันตะไคร่ 🍋

  • ใช้น้ำส้มสายชูหรือน้ำเกลือเข้มข้น เช็ดถังเป็นครั้งคราวเพื่อช่วยป้องกันการเกิดตะไคร่
  • หากถังเริ่มมีคราบตะไคร่ ให้ใช้น้ำส้มสายชูหรือน้ำเกลือขัดถัง แล้วล้างออกให้สะอาด

🔹 8. เปลี่ยนถังน้ำใหม่เมื่อเสื่อมสภาพ 🔄

  • หากถังน้ำเริ่มขุ่น มีรอยแตกร้าว หรือสะสมคราบตะไคร่ที่ล้างไม่ออก ควรเปลี่ยนถังใหม่เพื่อสุขอนามัยที่ดี
  • ใช้ถังที่ผลิตจากพลาสติก PET เกรด A ที่ปลอดภัยและทนทาน

สรุป

การทำความสะอาดถังน้ำดื่มเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาคุณภาพน้ำให้ปลอดภัยและไร้สิ่งปนเปื้อน ถังน้ำที่ไม่ได้รับการดูแล อาจกลายเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรีย ตะไคร่น้ำ และสิ่งสกปรกที่มองไม่เห็น ดังนั้น การล้างถังน้ำดื่มให้ถูกวิธีจึงช่วยยืดอายุการใช้งานและรักษาคุณภาพน้ำดื่มให้สะอาดอยู่เสมอ

เริ่มต้นด้วยการเทน้ำเก่าออก ล้างทำความสะอาดเบื้องต้น และใช้สารธรรมชาติ เช่น น้ำส้มสายชู เบกกิ้งโซดา หรือน้ำเกลือ เพื่อฆ่าเชื้อโรค ขัดถังด้วยแปรงขนนุ่ม ล้างออกด้วยน้ำสะอาดหลายรอบ จากนั้นผึ่งให้แห้งและปิดฝาให้แน่นเพื่อป้องกันสิ่งสกปรกและเชื้อโรคสะสม

นอกจากการล้างถังอย่างสม่ำเสมอแล้ว ควรสังเกตสัญญาณของถังที่สกปรก เช่น มีคราบตะไคร่น้ำ กลิ่นผิดปกติ หรือรสชาติของน้ำเปลี่ยนไป เพื่อดำเนินการทำความสะอาดโดยเร็ว นอกจากนี้ ควรเลือกใช้ถังน้ำที่มีสีทึบหรือกันแสง UV เพื่อลดการเกิดตะไคร่ และวางไว้ในที่ร่ม หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง

การล้างถังน้ำดื่มเป็นประจำช่วยให้มั่นใจว่าน้ำสะอาด ปลอดภัยต่อสุขภาพ และลดความเสี่ยงจากการปนเปื้อนของเชื้อโรค ทำให้คุณและครอบครัวได้บริโภคน้ำดื่มที่ปลอดภัยในทุกวัน

เงื่อนไขการให้บริการ

  1. ราคาขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการให้บริการ เช่น ราคาส่งอย่างเดียว ราคาส่งพร้อมติดตั้ง สามารถสอบถามและขอใบเสนอราคาได้ตามช่องทางติดต่อด้านล่าง
  2. ส่งสินค้าฟรีเฉพาะเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล
  3. หากลูกค้าอยู่ต่างจังหวัด มี 2 กรณี

    3.1 ส่งอย่างเดียวโดยการใช้บริการขนส่ง ค่าขนส่งขึ้นอยู่กับระยะทางและน้ำหนักสินค้า จ่ายต้นทางหรือปลายทางขึ้นอยู่กับการตกลง
    3.2 ทางเราดำเนินการส่งเองพร้อมติดตั้งให้ โดยจะมีการคิดค่าน้ำมันตามระยะทางไป-กลับ

หมายเหตุ : ทางเราไม่ได้มีบริการติดตั้งทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย เช่น ภาคเหนือ ภาคใต้ ทางเราไม่มีบริการติดตั้ง ขึ้นอยู่กับระยะทางและปริมาณการซื้อขาย สามารถทักมาสอบถามพูดคุยเบื้องต้นก่อนได้ตามช่องทางการติดต่อด้านล่าง

  • การติดตั้งไม่รวมถึงการเดินท่อประปา, ท่อน้ำทิ้ง, ปลั๊กไฟ และสายไฟ สิ่งเหล่านี้เป็นความรับผิดชอบของลูกค้า
  • ติดตั้งฟรีหน้างานในระยะไม่เกิน 5 เมตร จากจุดเชื่อมน้ำประปา ก๊อกน้ำ หรือวาล์วน้ำ เป็นสายอ่อน 2 หุน
  • ไม่รับประกันอุปกรณ์ที่เสื่อมสภาพตามการใช้งาน เช่น ก๊อกน้ำ แกนก๊อก ไส้กรองน้ำ
  • มีตู้สำรองให้ใช้ระหว่างการซ่อมตลอดอายุการใช้งาน หากต้องยกตู้เข้าโรงงานเพื่อตรวจเช็ค
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อสินค้า ขอใบเสนอราคา
Line คลิกที่นี่เพื่อ Chat ทันที
E-mail siamcooler1@gmail.com
Facebook @siamcooler
Youtube @siamcooler
ออฟฟิศ 02-539-2630 02-539-2607
  02-538-6343  
มือถือ 092-364-4629 (ฝ่ายขาย) 087-935-1415 (ฝ่ายซ่อมบำรุง)
แฟกซ์ 02-931-1381  

Siamcooler Mart and Service ยินดีให้คำปรึกษาและให้บริการอย่างเต็มความสามารถเพื่อช่วยลูกค้าแก้ปัญหา เปรียบเสมือนแผนกหนึ่งในองค์กรที่ช่วยดูแลเรื่องตู้กดน้ำ ไส้กรองน้ำ เครื่องกรองน้ำ อะไหล่ และบริการบำรุงรักษา เช่น การล้างทำความสะอาด การซ่อมบำรุง การทำสัญญาบริการรายปี

ประสบการณ์กว่า 20 ปี มีฐานลูกค้ามากกว่า 6,000 ราย ได้รับความไว้วางใจจากภาครัฐ เอกชน โรงเรียน ครัวเรือน และขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง จากการบอกต่อของลูกค้าที่ประทับใจในการใช้บริการกับเรา สามารถชื่นชมผลงานที่ผ่านมาของเราได้ที่นี่

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *