สาเหตุที่เครื่องกรองน้ำ มีรสชาติแปลกๆ พร้อมวิธีแก้ไข

เครื่องกรองน้ำ มีรสชาติแปลกๆ

1. สาเหตุหลักที่น้ำกรองแล้วมีรสชาติแปลก เฝื่อน หรือขม

1.1 ไส้กรองหมดอายุหรือตัน

ไส้กรองที่หมดอายุจะไม่สามารถดูดซับคลอรีนหรือสารอินทรีย์ได้เต็มที่ ทำให้น้ำมีรสเฝื่อน หรือขม คล้ายยาขมปลายลิ้น

💡 วิธีแก้ : เปลี่ยนไส้กรองตามรอบทุก 6 เดือน และเปิดน้ำทิ้ง (Flush) ก่อนใช้งานจริง

📖 อ้างอิง : WHO ระบุว่า “รสขมและกลิ่นโลหะในน้ำดื่ม มักบ่งชี้ถึงการสะสมของสารเคมีหรือโลหะในระบบกรอง” (WHO Guidelines for Drinking-water Quality)

1.2 น้ำต้นทางมีคุณภาพไม่ดี

น้ำประปาหรือบาดาลบางพื้นที่มีค่าคลอรีนและโลหะหนักสูง เช่น เหล็ก ทองแดง หรือแมงกานีส ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของรสขมและรสเฝื่อน

ตัวอย่างรสชาติน้ำที่พบบ่อย

ลักษณะรส

สาเหตุที่เป็นไปได้

วิธีแก้

เฝื่อน คลอรีนหรือสารอินทรีย์ตกค้าง ใช้ไส้กรองคาร์บอน GAC
ขม เหล็ก / ทองแดง / แมงกานีสสูง ใช้ระบบ RO + Resin
ฝาดโลหะ น้ำจากท่อเก่าเป็นสนิม เปลี่ยนท่อ / เพิ่ม Pre-filter

📊 สถิติในไทย : พบว่ามีเพียง 4% ของแหล่งน้ำประปาหมู่บ้านที่ผ่านมาตรฐานน้ำดื่มทั้งหมด (Nation Thailand, 2566)

ผู้ชายดื่มน้ำที่มีรสชาติเฝื่อน ขม รสแปลก

1.3 ปัญหาจากท่อหรือถังเก็บน้ำ

ท่อ PVC เก่าหรือถังพลาสติกที่ไม่ได้ล้างบ่อย จะสะสมสารอินทรีย์และแบคทีเรีย ซึ่งทำให้รสเฝื่อน คล้ายกลิ่นตะไคร่น้ำหรือยาง

💡 วิธีแก้ : ล้างถังเก็บน้ำทุก 6 เดือน และเลือกใช้ท่อ / ถังวัสดุ Food Grade หรือสเตนเลส

📖 อ้างอิง : West Richland Water Department ระบุว่า “การสะสมของตะไคร่และแบคทีเรียในท่อ เป็นสาเหตุหลักของรสเฝื่อนในน้ำดื่ม” (West Richland Water)

1.4 ค่า TDS และ pH เปลี่ยนจากการกรองมากเกินไป

น้ำที่ผ่านระบบ RO หรือ UF บางรุ่นอาจจืด หรือ เฝื่อน เพราะขาดแร่ธาตุที่ให้รสตามธรรมชาติ เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม

💡 วิธีแก้ : ใช้ไส้กรอง Re-mineralize เพื่อเติมแร่ธาตุคืนในปริมาณพอเหมาะ ให้รสชาติน้ำกลมกล่อม

📖 อ้างอิง : การศึกษาของ IWA Online (2024) ระบุว่า “การควบคุม pH และ TDS มีผลโดยตรงต่อรส และ การยอมรับของผู้บริโภค” (IWA Journal of Water and Health)

1.5 การใช้งานไม่ถูกวิธี

หลายบ้านมักลืมเปิดน้ำทิ้งหลังหยุดใช้เครื่องนาน ทำให้เกิดรสเฝื่อนหรือกลิ่นค้าง

💡 วิธีแก้ : ทุกครั้งที่ไม่ได้ใช้เครื่องกรองเกิน 3 วัน ให้เปิดน้ำไล่ประมาณ 5 นาที ก่อนดื่ม

2. ผลกระทบต่อสุขภาพและการใช้ชีวิต

รสน้ำผิดปกติ

ความหมายทางวิทยาศาสตร์

ผลกระทบต่อสุขภาพ/การใช้ชีวิต

แหล่งอ้างอิง

รสขม การสะสมของคลอรีนหรือโลหะหนัก (เช่น Copper, Zinc) ระคายคอ / คลื่นไส้ / สะสมในตับเมื่อดื่มนาน WHO 2022
รสเฝื่อน สารอินทรีย์, ตะไคร่น้ำ, แบคทีเรีย Actinomycetes กลิ่นอับคล้ายตะไคร่ / ลดความอยากดื่มน้ำ / เสี่ยงแบคทีเรียเติบโต CDC 2023
รสโลหะ การชะล้างของท่อเหล็กหรือทองแดงในบ้านเก่า เพิ่มความเสี่ยง โลหะหนักสะสม / กัดกร่อนระบบน้ำ US EPA 2023
รสจืด (ไม่มีรส) ค่าน้ำ TDS ต่ำกว่า 50 mg/L ไม่มีแร่ธรรมชาติ ดื่มน้ำน้อยลง / ร่างกายขาดแร่บางชนิด (Mg, Ca) WHO 2019
รสฝาด หรือ คล้ายยา คลอรีนและสารตกค้างจากการฆ่าเชื้อ ระคายลำคอ / กลิ่นติดอาหารและกาแฟ / รสไม่กลมกล่อม WaterCare UK 2024

3. วิธีตรวจเช็กและแก้ไขเบื้องต้นด้วยตัวเอง

ขั้นตอน

วิธีทำ

ผลลัพธ์

1. เปลี่ยนไส้กรองน้ำ เปลี่ยนทุก 6 เดือน และปล่อยน้ำทิ้ง 2–3 ลิตร ก่อนดื่ม รสเฝื่อน/ขม หาย น้ำใสสะอาด
2. ล้างกระบอก Housing และท่อ น้ำอุ่น + น้ำส้มสายชู 1:3 หรือน้ำคลอรีน 100 ppm ล้างภายใน ลดกลิ่น ตะไคร่ เชื้อโรค
3. ตรวจน้ำต้นทาง ใช้ TDS meter และ pH strip หรือส่งตรวจที่ DSS รู้คุณภาพน้ำ ก่อนเลือกไส้กรอง
4. ตรวจท่อและถังเก็บน้ำ ตรวจสนิม หรือ คราบในถัง/ท่อ เปลี่ยนเป็น Food Grade / PEX ป้องกันรสโลหะ และ ปนเปื้อน
5. ล้างหัวจ่ายตู้น้ำ เช็ดด้วยแอลกอฮอล์ 70% สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ลดกลิ่นและแบคทีเรียสะสม

4. วิธีล้างเครื่องกรองน้ำและตู้น้ำอย่างถูกต้อง

แม้จะเปลี่ยนไส้กรองใหม่แล้ว หากตัวเครื่องหรือถังในตู้กดน้ำสกปรก รสน้ำก็ยังคงเฝื่อน ขม หรือมีกลิ่นอยู่ เพราะในระบบมักมีตะไคร่น้ำ แบคทีเรีย หรือคราบหินปูนสะสม

4.1 การล้างเครื่องกรองน้ำ

ความถี่ที่แนะนำ : ทุก 3-6 เดือน หรือเมื่อเปลี่ยนไส้กรองน้ำ

ขั้นตอนการล้างเครื่องกรองน้ำ

  1. ปิดวาล์วน้ำเข้าและถอดปลั๊กเครื่องกรอง

  2. ถอดไส้กรองออก แล้วล้างกระบอก Housing ภายในแต่ละกระบอกด้วยน้ำอุ่น + น้ำยาล้างจานเจือจาง

  3. ใช้แปรงนุ่มๆ ขัดขอบยาง / เกลียว / ฝาปิด

  4. ล้างน้ำสะอาดให้หมดฟอง จากนั้นใส่ไส้กรองกลับ

  5. ตรวจสอบข้อต่อและสายน้ำว่ายังอยู่ในสภาพดี สะอาด หากมีคราบสกปรกสะสมให้เปลี่ยนอันใหม่
  6. เปิดน้ำทิ้ง (Flush) 5–10 ลิตร ก่อนใช้งานจริง

💡 เคล็ดลับ : ถ้าเครื่องกรองน้ำมีถังแรงดัน (Pressure Tank) ให้เปิดน้ำจนหมดถังก่อนเริ่มล้าง เพื่อป้องกันแรงดันย้อน

4.2 การล้างตู้น้ำเย็น–น้ำร้อน

ความถี่ที่แนะนำ : ควรล้างตู้ทำน้ำเย็นทุก 3 เดือน หรือเมื่อรสชาติน้ำเปลี่ยน

ขั้นตอนล้างตู้น้ำอย่างง่ายๆ

ขั้นตอน

สาเหตุ

ผลลัพธ์

1. ถอดปลั๊กตู้น้ำ เพื่อความปลอดภัย ป้องกันไฟดูด
2. เทน้ำทิ้งจากถังเย็น–ร้อน เปิดวาล์วระบายทั้งหมด กำจัดน้ำค้างเก่า
3. ผสมน้ำส้มสายชู 1 ถ้วย + น้ำอุ่น 3 ลิตร เทลงในช่องถังเย็นและร้อน ฆ่าเชื้อและลดคราบหินปูน
4. ทิ้งไว้ 15 นาที แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด 2 รอบ เพื่อไม่ให้มีกลิ่นน้ำส้มสายชูตกค้าง น้ำจะกลับมารสชาติดี
5. เช็ดหัวจ่ายด้วยสำลีชุบน้ำแอลกอฮอล์ ฆ่าเชื้อที่หัวจ่ายน้ำ ป้องกันรสเฝื่อนจากแบคทีเรีย

ตารางสรุป : ความถี่ในการบำรุงรักษา

รายการ

ความถี่แนะนำ

ผลลัพธ์ที่ได้

เปลี่ยนไส้กรองน้ำ ทุก 3-6 เดือน รสชาติน้ำสะอาด สดใหม่
ล้างเครื่องกรองน้ำ ทุก 3-6 เดือน (พร้อมเปลี่ยนไส้กรอง) ลดกลิ่นอับ/คราบตะกรัน
ล้างตู้น้ำเย็น–ร้อน ทุก 3-6 เดือน ป้องกันรสเฝื่อน/ขม
ตรวจท่อและถังเก็บน้ำ ทุก 6–12 เดือน ลดโอกาสปนเปื้อนจากระบบท่อ

5. เคล็ดลับเลือกเครื่องกรองน้ำให้รสชาติดี

น้ำประปาและน้ำบาดาลในประเทศไทยส่วนใหญ่มีคลอรีนตกค้าง หินปูน กลิ่นสนิม และรสเฝื่อน จากท่อเก่าหรือตะกอนใต้ดิน ดังนั้นเครื่องกรองน้ำที่เลือกใช้ควรแก้ปัญหาให้ตรงกับสภาพน้ำพื้นที่ของเรา ไม่ใช่ดูแค่ราคาหรือยี่ห้อครับ

เกณฑ์พิจารณาเลือกเครื่องกรองน้ำ

ลำดับ

เกณฑ์พิจารณา

เหตุผลสำคัญ

1️⃣ ตรวจคุณภาพน้ำก่อนซื้อ รสชาติและระบบกรองที่เหมาะต่างกันระหว่าง “น้ำประปา” กับ “น้ำบาดาล” เช่น น้ำประปาควรใช้ระบบคาร์บอน + UF ส่วนพื้นที่น้ำบาดาลควรใช้ระบบ RO + Resin เพื่อขจัดโลหะหนักและหินปูน
2️⃣ เลือกเครื่องที่ผ่านมาตรฐาน มอก. หรือ NSF มั่นใจว่าอุปกรณ์และวัสดุทุกชิ้นปลอดภัย ไม่ปล่อยโลหะหนักหรือสารเคมีตกค้างในน้ำดื่ม
3️⃣ เลือกระบบกรองที่คืนแร่ธรรมชาติ (Re-mineralize) น้ำที่ผ่านระบบ RO เพียงอย่างเดียวมัก “จืด” และขาดแร่ธาตุ ระบบเติมแร่ช่วยให้รสน้ำกลมกล่อมและคงคุณค่าทางแร่
4️⃣ ตรวจสอบวัสดุของถังและท่อ ควรเป็นวัสดุ Food Grade หรือสแตนเลส 304 เพื่อป้องกันกลิ่นพลาสติกและรสเฝื่อนจากการเสื่อมของวัสดุ
5️⃣ เลือกไส้กรองคาร์บอนคุณภาพดี (GAC หรือ CTO) คาร์บอนช่วยดูดซับคลอรีน กลิ่นยา และสารอินทรีย์ที่ทำให้น้ำรสเฝื่อน เป็นหัวใจสำคัญของรสน้ำสะอาด
6️⃣ เลือกระบบกรองให้เหมาะกับการใช้งาน บ้านทั่วไปอาจใช้ระบบ UF 4–5 ขั้นตอน น้ำบาดาลควรเลือก RO + Resin ส่วนสำนักงานหรือร้านอาหารควรมีระบบ UV หรือ RO อุตสาหกรรม
7️⃣ เลือกเครื่องที่บำรุงรักษาง่าย การเปลี่ยนไส้กรองและล้างเครื่องควรทำได้สะดวก เพื่อให้ผู้ใช้สามารถดูแลเครื่องกรองได้ด้วยตนเองและรักษาคุณภาพรสน้ำได้สม่ำเสมอ
8️⃣ มีบริการหลังการขายในประเทศไทย เพื่อให้สามารถเปลี่ยนไส้กรองแท้ ตรวจสอบแรงดัน และดูแลรสชาติน้ำได้ทุก 6 เดือนอย่างต่อเนื่อง
9️⃣ ตรวจแรงดันน้ำและขนาดพื้นที่ติดตั้ง เครื่องกรองน้ำบางระบบ เช่น RO ต้องใช้แรงดันน้ำสูง ควรตรวจแรงดันในบ้านก่อนเลือกเครื่อง เพื่อประสิทธิภาพการกรองสูงสุด
🔟 ทดสอบรสและกลิ่นของน้ำหลังกรอง น้ำกรองที่ดีควร “ไม่มีรสโลหะ ไม่ขม ไม่เฝื่อน และไม่มีกลิ่นคลอรีน” หากมีควรตรวจสอบระบบกรองและเปลี่ยนไส้กรองทันที

6. สรุป

รสชาติน้ำที่เฝื่อนหรือขม ไม่ได้เกิดจากไส้กรองเสื่อมสภาพเพียงอย่างเดียว แต่มักเกิดจาก เครื่องกรองและตู้น้ำที่ไม่เคยล้างทำความสะอาดหรือบำรุงรักษาอย่างเหมาะสม

ดังนั้น หากคุณต้องการน้ำรสชาติดี

  • เปลี่ยนไส้กรองตามรอบ และปล่อยน้ำทิ้งก่อนใช้งาน

  • ล้างเครื่องกรองน้ำและเครื่องทำน้ำเย็นสม่ำเสมอ

  • ตรวจสอบท่อและถังเก็บน้ำเป็นระยะ

  • เลือกเครื่องกรองน้ำที่เหมาะกับสภาพน้ำในพื้นที่

เพียงเท่านี้ น้ำดื่มของคุณจะกลับมาสะอาด สดชื่น ไม่มีรสขม หรือเฝื่อนอีกต่อไป

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *