วันนี้เรานำเครื่องทำน้ำเย็น รุ่น WP9HC มาติดตั้งที่ห้องครัวครับ

โดยลูกค้าขอมาว่าจะนำไส้กรองน้ำที่อยู่ในตู้ออกไปไว้ใต้ซิ้งค์อ่างล้างมือ แล้วเดินท่อมา เผื่ออนาคตลูกค้าอยากเปลี่ยนรุ่นเครื่องกรองน้ำก็ทำได้ง่าย ไม่ต้องผูกติดกับตู้

ผมเอาน้ำประปานครหลวงที่ยังไม่ผ่านการกรองมาวัดค่า 2 อย่าง ได้แก่

1. ค่า TDS เป็นของแข็งที่ละลายอยู่ในน้ำ วัดออกมาได้ประมาณ 194-207 ppm
2. ค่า pH ความเป็นกลางจะอยู่ที่ 5 – 8.5 แต่เราวัดออกมาได้ 7.7 pH มีความเป็นด่าง ส่วนตัวเลขด้านล่าง 27.7 องศาคืออุณหภูมิของน้ำครับ

มีเรื่องที่คนส่วนใหญ่เข้าใจผิดกันเยอะมาก คือ การนำปากกาวัดค่า TDS แล้วเห็นว่ามีค่าสูง ก็ตีความเลยว่าน้ำสกปรก ปนเปื้อนสูง ดื่มแล้วอันตรายต่อร่างกาย แต่จริงๆแล้วไม่ใช่นะครับ

เพราะค่า TDS ไม่ได้ใช้วัดความสกปรกของน้ำ แต่ใช้วัดของแข็งที่ละลายในน้ำ ซึ่งรวมถึงแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายด้วย เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม ค่าสูงหรือต่ำไม่ได้บ่งบอกถึงความสะอาดของน้ำ

หากเราใช้ระบบ UF เวลานำปากกาวัดค่า TDS ไปจุ่มน้ำ ค่า TDS จะไม่หมดไป เพราะน้ำที่ผ่านการกรองจากระบบ UF ยังคงเหลือแร่ธาตุที่มีประโยชน์กับร่างกายเอาไว้ แต่ไส้กรองน้ำ UF จะกำจัดเชื้อโรค ไวรัส แบคทีเรีย E.coli แต่ถ้าใช้ระบบ RO ค่า TDS จะไม่เกินหลักสิบ ppm

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ การที่เราวัดค่า TDS ออกมาแล้วไม่รู้รายละเอียดเลยว่ามีอะไรอยู่ในน้ำบ้าง

อย่าลืมว่าตัวเลขไม่ได้บอกชื่อสารละลายที่อยู่ในน้ำครับ บางทีวัดออกมาได้ค่าต่ำ แต่กลับมีสารหนู ยาฆ่าแมลง ยาฆ่าหญ้าอยู่ในน้ำ น่ากลัวกว่าเยอะครับ

ในทางกลับกัน ถ้าเราวัดค่า TDS ได้สูง แต่ในน้ำมีแค่แร่ธาตุที่ไม่อันตรายกับร่างกายย่อมปลอดภัยกว่า ถ้าเราอยากรู้ว่าน้ำที่ผ่านการกรองออกมาแล้วดื่มแล้วปลอดภัยไหม ต้องส่งน้ำไปตรวจในห้องแลป

เราจะได้รายงานอย่างละเอียดว่าในน้ำมีสารละลายอะไรบ้าง แล้วแต่ละตัวมีค่าเท่าไหร่ เกินเกณฑ์มาตรฐานตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขไหม

เขาจะมีตรวจสารหนู แบคทีเรีย เชื้อโรคให้ แต่ผมไม่ได้รับบริการตรงนี้ครับ คุณต้องหาบริษัทที่เขารับตรวจสอบคุณภาพน้ำข้างนอก แล้วให้เขามาเก็บน้ำภายใน 7 วัน

ผมได้อธิบายหน้าที่ของไส้กรองน้ำ 5 ขั้นตอนให้ลูกค้าฟัง

1. PP Sediment – ดักจับตะกอน สารแขวนลอย สนิมเหล็ก มีความละเอียด 5 ไมครอน
2. Pre-Carbon – ดูดซับกลิ่น สี คลอรีน สารอนินทรีย์
3. Resin – ดักจับหินปูน ตะกรัน ความกระด้างของน้ำ
4. UF – กำจัดเชื้อโรค แบคทีเรีย coli โคลิฟอร์ม มีความละเอียด 0.01 ไมครอน
5. Post Carbon – ปรับความเป็นกรดด่างของน้ำให้นุ่มนวล ทำให้รสชาติน้ำดีขึ้น

ลูกค้าสงสัยว่าในไส้กรองน้ำ Post Carbon มีสารเคมีอะไรสะสมในร่างกายไหม ซึ่งผมไม่มั่นใจเรื่องนี้ครับ แต่ที่ผมตอบได้ก็คือ หากเราอยากมั่นใจว่าน้ำที่ผ่านไส้กรองน้ำ 5 ขั้นตอนมาแล้วดื่มได้ไหม ให้ดูเบื้องต้นจาก

1. ค่า TDS – น้ำดื่มบริโภคในภาชนะบรรจุปิดสนิทตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุขควรมีค่าอยู่ที่ไม่เกิน 500 ppm ส่วนน้ำ RO ควรมีค่าอยู่ไม่เกิน 50 ppm
2. ส่งน้ำที่ผ่านการกรองไปตรวจแลป – เพื่อหาค่าทางฟิสิกส์ เคมี และจุลินทรีย์ว่ามีค่าไม่เกินเกณฑ์มาตรฐานตามกระทรวงสาธารณสุข

หากคุณใช้บริการบำรุงรักษาเปลี่ยนไส้กรองน้ำกับเรา และส่งน้ำที่ผ่านการกรองไปตรวจห้องแลปออกมาไม่ผ่าน เราจะเข้ามาเปลี่ยนไส้กรองน้ำให้ใหม่ครับ แต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไข 2 ข้อ คือมีการเก็บน้ำอย่างถูกสุขลักษณะ และเก็บภายในระยะเวลา 7 วัน

เปรียบเทียบความแตกต่างของไส้กรองน้ำแคปซูล ที่อยู่ในตู้กดน้ำเย็น กับเครื่องกรองน้ำแขวนผนัง

• ไส้กรองน้ำแคปซูล เอาไว้ใช้กับตู้กดน้ำเย็น กรองในตัว ความหมายคือมีไส้กรองน้ำอยู่ด้านในตู้ เพื่อไม่ให้เกะกะพื้นที่ เมื่อหมดอายุการใช้งานแล้วก็ทิ้งเลย ไม่มีการล้างทำความสะอาด เหมือนการเปลี่ยนถ่านเลยครับ
• เครื่องกรองน้ำ แขวนผนัง นิยมใช้กับตู้ทำน้ำเย็น สแตนเลส ต่อตรงท่อประปา สามารถถอดกระบอกน้ำโดยใช้ไม้ขันมาล้างทำความสะอาด และนำกลับมาใช้ใหม่ได้
• คุณภาพกับอายุการใช้งานใกล้เคียงกัน แต่เครื่องกรองน้ำ 3 ขั้นตอนแรก ปริมาณของสารกรองจะเยอะกว่าไส้กรองน้ำแคปซูล นิดหน่อยครับ

เราอธิบายให้ลูกค้าฟังว่าทุก 6 เดือนจะมีการบำรุงรักษา ดังนี้

1. เปลี่ยนไส้กรองน้ำ 5 ขั้นตอน
2. เปลี่ยนสายน้ำที่เชื่อมระหว่างไส้กรองกับแท้งค์น้ำ
3. เปลี่ยนข้อต่อ ข้องอที่เชื่อมระหว่างไส้กรอง
4. ล้างแท้งค์น้ำ ล้างลูกลอย

แล้วก็เปิดวาล์วให้น้ำไหลเข้าแท้งค์ พร้อมเปิดฝาให้ลูกค้าดู เราจะเห็นว่าน้ำไหลผ่านสายสีขาวเข้ามาที่ลูกลอยสีเงิน แต่น้ำประปาที่นี่ไหลไม่ค่อยแรงครับ อาจจะเต็มช้า

เราจะเห็นจานสีขาวด้านล่างที่มีรู 3 อัน สาเหตุที่ต้องมีเพราะช่วยบังไอความร้อนไม่ให้ขึ้นมาด้านบน หากไม่มีจานสีขาวแผ่นนี้ น้ำเย็นจะกลายเป็นน้ำร้อนครับ

น้ำที่เติมเข้ามาในแท้งค์จะไหลลงรูที่เชื่อมกับกระป๋องน้ำร้อนด้านล่างจนเต็มก่อน แล้วระดับน้ำก็ขึ้นมาเรื่อยๆจนลูกลอยตัดการทำงาน น้ำด้านบนจะเป็นน้ำเย็นครับ

เราจะเปิดน้ำเข้าแท้งค์เพื่อล้างทำความสะอาดแท้งค์ แกนก๊อกน้ำ กระป๋องน้ำร้อน แล้วปล่อยน้ำออกมา หากต้องการล้างกระป๋องน้ำร้อน ก็ต้องหมุนฝาสีขาวทรงกลมด้านหลัง แล้วน้ำจะพุ่งออกมาครับ

ดังนั้นเราต้องหาภาชนะมารองไว้ก่อน เราล้างก่อนที่เราจะดื่มจริง เพื่อให้มั่นใจว่าชิ้นส่วนที่ผ่านน้ำมีความสะอาดแล้ว

ส่วนสายน้ำเราได้ทำการติดรางเพื่อเก็บสายน้ำดีให้เป็นระเบียบ รวมถึงทดสอบการทำความร้อน ความเย็นว่าทำงานได้ปกติ

รูในแท้งค์น้ำจะมี 2 รู

1. รูที่เชื่อมกับกระป๋องน้ำร้อน
2. รูสำหรับน้ำเย็น

เวลาเราล้างแท้งค์น้ำ ให้ไปล้างมือกับสบู่ก่อน เพราะสิ่งปนเปื้อนที่มืออาจลงไปในแท้งค์ได้ แล้วใช้ฟองน้ำสะอาดมาซับน้ำ ระหว่างซับก็ถูด้านในไปด้วยจนกว่าน้ำจะหมด

สายน้ำสีขาวจะมีวาล์วเปิด-ปิดน้ำเข้าแท้งค์น้ำในตู้กดน้ำเย็น เพราะเวลามีน้ำรั่วซึม เราจะได้ปิดทัน ไม่ต้องเดินไปปิดวาล์วใต้ซิ้งค์อ่างล้างมือ เป็นมาตรฐานที่ควรมีทุกตู้ครับ เทคนิคเล็กน้อยคือ ถ้าที่หมุนสีฟ้าขนานกับสายน้ำ แปลว่าวาล์วเปิดอยู่ แต่ถ้าไม่ขนานกัน ก็คือปิดครับ

ก่อนใช้งานจริงผมแนะนำให้ล้างแกนก๊อกด้วยนะครับ แต่แกนก๊อกอยู่ด้านใน มือเราเข้าไปไม่ได้ ก็ต้องใช้วิธีเติมน้ำเข้าไปในแท้งค์ แล้วกดน้ำจากก๊อก เพื่อให้น้ำไหลผ่านแกนก๊อก เป็นการล้างไปในตัวครับ

เมื่อเราซับน้ำออกมาจากแท้งค์น้ำหมดแล้ว สังเกตว่าน้ำจะยังมีสีเทาดำ ให้ใส่น้ำเข้าไปไหม่ แล้วใช้มือดันก๊อกน้ำเย็น เพื่อล้างแกนก๊อกที่เป็นทางเดินของน้ำเย็นครับ

หลังจากนั้นเปิดฝาเล็กๆสีขาวด้านหลังออก เพื่อล้างกระป๋องน้ำร้อนครับ แล้วรอให้น้ำเข้าแท้งค์อีกรอบ กดก๊อกน้ำร้อน เพื่อล้างทางเดินแกนก๊อกน้ำร้อน

ลูกค้ามีคำถามครับว่าถ้าเราไม่ได้ใช้งาน ถอดปลั๊กออกได้ไหม

คำตอบ : คอมเพรสเซอร์ไวกับเรื่องไฟ ถ้าเราถอดเข้า ถอดออกบ่อยๆ คอมเพรสเซอร์อาจสปาร์คหรือช็อต หากจะถอดปลั๊กก็ควรมีระยะเวลาการถอดที่นานพอ เช่น หยุดปีใหม่ 4 วันเต็ม หรือถอดปลั๊กออกมาไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมงแล้วค่อยเสียบใหม่ เพราะคอมเพรสเซอร์ต้องการสตาร์ทตัวเอง

หากเราเสียบปลั๊กตลอด 24 ชั่วโมงก็ไม่เป็นไรครับ เพราะมีเทอร์โมสตัทที่เป็นตัวควบคุมอุณหภูมิ ซึ่งทางโรงงานตั้งค่ามาให้เราแล้ว เทอร์โมสตัทจะเช็คอุณหภูมิน้ำ ถ้ามีอุณหภูมิ 3 องศาตามที่กำหนดแล้วจะทำการปิดคอมเพรสเซอร์ไม่ให้ทำงาน

เราสังเกตจากไฟข้างหน้าคำว่า Cooling หากเป็นไฟเขียว เวลาเราเอามือไปจับข้างตู้จะสัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือนเล็กน้อย เพราะคอมเพรสเซอร์กำลังทำงานอยู่ แต่ถ้าไฟดับลงไป แปลว่ามีการตัดอุณหภูมิเรียบร้อยแล้ว ทำให้ไม่กินไฟ

หากเราหยุดยาว แล้วยังมีน้ำค้างอยู่ในแท้งค์น้ำ ผมแนะนำว่าให้แม่บ้านปล่อยน้ำทั้งหมดทิ้งไปเลย เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีคราบหรือสิ่งปนเปื้อนอะไรอยู่ในแท้งค์น้ำครับ

ก๊อกน้ำชนิดนี้เรียกว่า ก๊อกแก้วดัน คือเราใช้มือหรือแก้วดัน แล้วน้ำถึงจะออกมา แต่จริงๆก๊อกแบบนี้สามารถหงายขึ้นได้ มันจะมีตัวล็อกสีขาวไม่ให้หงายขึ้น

หากเราเอาออกมา จะหงายขึ้นได้ เหมาะกับคนที่ต้องเอาภาชนะรองน้ำเป็นเวลานาน ไม่อยากใช้มือกดเอง เพราะเสียเวลา หงายทิ้งไว้เลย แต่ข้อเสียคือถ้าหงายขึ้นบ่อยๆอาจทำให้ชิ้นส่วนด้านบนหักได้

ก๊อกน้ำร้อนจะมีปุ่ม safety ป้องกันเด็กมากดเล่น วิธีใช้คือดันปุ่มตัวล็อกขึ้น เวลาเด็กมากดก๊อกน้ำร้อน จะไม่มีน้ำไหลออกมา ไม่เป็นอันตรายกับเด็กครับ หากเราจะใช้น้ำร้อนก็กดตัวล็อกลงมา

ด้านล่างก๊อกคือถาดรองน้ำ เมื่อน้ำเต็มแล้ว เราสามารถยกขึ้นมาเพื่อเทน้ำทิ้งได้ สังเกตว่าจะมีร่องเสียบอยู่ตรงกลาง พอเทเสร็จก็เอามาเสียบกับร่องเหมือนเดิมครับ รุ่นนี้ต้องคอยยกถาดรองน้ำทิ้งเทเองครับ หากไม่อยากยกเทต้องซื้อตู้กดน้ำเย็นของเกาหลี ราคาตั้งแต่หมื่น – 2 หมื่นกว่า

ส่วนรูเล็กๆ 2 รูตรงนี้เอาไว้ใส่กระบอกกรวยสแตนเลส เพราะบางโรงงานไม่ให้ใช้แก้ว แต่จะติดกระบอกกรวยสแตนเลส แล้วมีกรวยสีขาวให้หยิบไปกรอกน้ำครับ มีรูแบบนี้มาให้ข้างตู้ทั้ง 2 ด้าน

เมื่อน้ำไหลเข้าแท้งค์น้ำจนเต็มแล้ว ให้เราทดสอบกดก๊อกน้ำดูว่าน้ำไหลออกมาทั้ง 2 ก๊อก แล้วค่อยเสียบปลั๊ก เมื่อเสียบแล้วจะมีไฟสีเขียวขึ้นที่ Cooling สื่อว่าคอมเพรสเซอร์กำลังทำงาน ลองเอามือจับข้างตู้จะรู้สึกได้ว่าคอมกำลังเดินอยู่

เมื่อไหร่ที่คอมเพรสเซอร์ทำความเย็นถึงอุณหภูมิที่กำหนด ไฟสีเขียวจะหายไป เมื่อเราเปิดสวิซท์น้ำร้อนด้านหลัง จะมีไฟสีแดงขึ้นตรง Heater สื่อว่ากำลังทำความร้อนอยู่ ทำงานเหมือนกระติกน้ำร้อน

การทำความเย็นใช้เวลาประมาณ 30 นาที ส่วนน้ำร้อนใช้เวลาประมาณ 12 นาที สามารถลวกไข่ ต้มน้ำร้อนได้เลย

สุดท้ายนี้ผมมีคำถามที่น่าสนใจจากลูกค้ามาแบ่งปันให้ทุกคนอ่านเป็นความรู้กันนะครับ

1. เนื่องจากตู้กดน้ำเย็น และเครื่องกรองน้ำ มีการต่อตรงท่อประปา โดยไม่ผ่านถังสำรองน้ำ หากวันนึงน้ำประปาไม่ไหลขึ้นมา เราควรดำเนินการอย่างไร

   คำตอบ : หากน้ำประปาไม่ไหลตั้งแต่ 1 ชั่วโมงขึ้นไป ควรปิดวาล์วน้ำใกล้ตู้และดึงปลั๊กออก หลังจากน้ำประปามาแล้ว ควรดึงสายน้ำหลังตู้ออกมาก่อน เพื่อเดรนน้ำจนกว่าจะมั่นใจว่าน้ำใส ไม่มีขี้โคลน แล้วค่อยเสียบสายน้ำที่ด้านหลังตู้เพื่อใช้งานต่อไปครับ

2. หากไม่มีน้ำไหลเข้ามาที่เครื่องทำน้ำเย็นเลย ทำให้แท้งค์น้ำเย็น-น้ำร้อนแห้ง ในขณะที่ยังเสียบปลั๊กอยู่ จะมีสัญญาณอะไรแจ้งด้านหน้าตู้หรือไม่ หากปล่อยทิ้งไว้จะเกิดผลกระทบอย่างไร และป้องกันแก้ไขอย่างไร

   คำตอบ : ฝั่งน้ำเย็น – ด้านในแท้งค์น้ำจะเป็นน้ำแข็ง ไฟโชว์ด้านหน้าจะไม่ติดครับ
   ฝั่งน้ำร้อน – กระป๋องน้ำร้อนจะมีกลิ่นไหม้ครับ หากรู้ว่าน้ำแห้งควรปิดสวิทซ์น้ำร้อน และดึงปลั๊กออกก่อนครับ

บางกรณีที่น้ำไม่ไหล เกิดจากการประปานครหลวงซ่อมท่อน้ำ แล้วไม่แจ้งให้เราทราบก่อน หลังจากการประปาซ่อมเสร็จแล้วอาจมีโคลนตะกอนอยู่ในท่อ จากประสบการณ์มี 2 วิธี

1. ลูกค้าบางรายให้เราเปลี่ยนไส้กรองน้ำใหม่ให้เลย
2. บางคนก็จ้างให้เราไปล้างทำความสะอาดแท้งค์น้ำ ตู้ทำน้ำเย็น และล้างไส้กรองน้ำแบบย้อนกลับให้

เราอาจลองใช้ปากกา TDS วัดค่าออกมาดูก่อน แล้วทางที่ดีคือถ้าการประปานครหลวงแจ้งเราว่าจะมีการซ่อมท่อประปา ต้องวางแผนปิดวาล์วน้ำก่อนจะถึงวันที่เขาซ่อมท่อครับ ผมขอปิดท้ายด้วยรูปตอนส่งมอบงานเสร็จสิ้นครับ